นโยบายความเป็นส่วนตัว

ประกาศเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Notice) 

สำหรับกระบวนการที่เกี่ยวข้องกับลูกค้า  

ของบริษัท ยูนิฟาย เคมิคอล จำกัด

  1. บททั่วไป

เพื่อเป็นการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 และกฎหมายลำดับรองที่เกี่ยวข้อง และ

ให้หมายความรวมถึงกฎหมายฉบับแก้ไขเพิ่มเติมใดๆ ในอนาคต (กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล”) 

บริษัท ยูนิฟาย เคมิคอล จำกัด (บริษัทฯ”) จึงจัดทำประกาศเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Notice) สำหรับกระบวนการที่เกี่ยวข้องกับลูกค้าของบริษัท ยูนิฟาย เคมิคอล จำกัด (ประกาศฯ”) ฉบับนี้ขึ้น เพื่ออธิบายให้ท่านทราบถึงวิธีการ

ที่บริษัทฯ ปฏิบัติต่อข้อมูลที่สามารถระบุตัวตนของท่าน หรืออาจจะระบุตัวตนของท่านได้ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม ตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (ข้อมูลส่วนบุคคล”) เช่น วิธีการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย หรือการดำเนินการใดๆ กับข้อมูลส่วนบุคคลไม่ว่าด้วยวิธีการอัตโนมัติหรือไม่ก็ตาม อาทิ การบันทึก การจัดระบบ การจัดเก็บ การปรับเปลี่ยนหรือการดัดแปลง การเรียกคืน การส่ง โอน การเผยแพร่หรือการทำให้สามารถเข้าถึงหรือพร้อมใช้งานโดยวิธีใด ๆ การจัดเรียง การนำมารวมกัน การจำกัดหรือการห้ามเข้าถึง การลบหรือการทำลาย (ประมวลผล”) และเพื่อแจ้งให้ท่านทราบถึงวัตถุประสงค์ในการประมวลผล ระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล ตลอดจนสิทธิของท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งนี้ บริษัทฯ ขอแนะนำให้ท่านอ่านและทำความเข้าใจถึงข้อกำหนดต่าง ๆ ภายใต้ประกาศฯ โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

 

  1. กลุ่มหรือประเภทของบุคคลที่บริษัทฯ ทำการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล

ภายใต้ประกาศฯ ฉบับนี้ กลุ่มหรือประเภทของบุคคลที่บริษัทฯ ทำการเก็บรวบรวมและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลประกอบด้วย

2.1 ลูกค้า ซึ่งหมายถึง บุคคลที่ซื้อสินค้าและ/หรือใช้บริการจากบริษัทฯ และ/หรืออาจจะซื้อสินค้าและ/หรือใช้บริการ

จากบริษัทฯ หรือบุคคลอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน อาทิ ผู้เข้าร่วมกิจกรรม ผู้เข้าร่วมสัมมนา ผู้เข้าร่วมการประมูล 

ผู้ใช้บริการเว็บไซต์ ผู้ใช้บริการแอปพลิเคชัน ผู้ที่ติดต่อเพื่อขอรับข้อมูลหรือขอรับบริการจากบริษัทฯ และผู้ตอบแบบสอบถามเกี่ยวกับสินค้าและ/หรือบริการของบริษัทฯ เป็นต้น

2.2 ผู้ที่เกี่ยวข้องกับลูกค้า ซึ่งหมายถึง บุคคลที่เกี่ยวข้องหรือเป็นตัวแทนของลูกค้า เช่น ผู้บริหาร กรรมการ พนักงาน ตัวแทน หรือบุคลากรใด ๆ ของลูกค้าซึ่งเป็นนิติบุคคล และให้หมายความรวมถึงผู้ที่ข้อมูลส่วนบุคคลปรากฏในเอกสารต่างๆ 

ที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการที่เกี่ยวข้อง อาทิ ผู้จัดการ ผู้สั่งซื้อ ผู้รับสินค้า และผู้สั่งจ่ายเช็ค เป็นต้น

 

  1. วิธีที่บริษัทฯ เก็บรวบรวมและรับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

3.1 บริษัทฯ เก็บรวบรวมและรับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านผ่านช่องทางต่าง ๆ ดังนี้

  • (ก) ข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านให้ไว้กับบริษัทฯ โดยตรง
    ท่านอาจให้ข้อมูลส่วนบุคคลแก่บริษัทฯ โดยตรง เช่น 
    • เมื่อท่านติดต่อสื่อสาร สอบถามข้อมูล ให้ความเห็นหรือคำติชมแก่บริษัทฯ ไม่ว่าจะเป็นการสื่อสารเป็น      ในรูปแบบลายลักษณ์อักษรหรือวาจา ผ่านทางเว็บไซต์ แอปพลิเคชัน โทรศัพท์ อีเมล โทรสาร ไปรษณีย์   การพบปะกันโดยตรง หรือโดยวิธีการอื่นใด
    • เมื่อท่านแสดงเจตนาเพื่อซื้อสินค้าหรือใช้บริการจากบริษัทฯ เข้าทำสัญญากับบริษัทฯ หรือส่งมอบ      เอกสารต่างๆ ซึ่งมีข้อมูลส่วนบุคคลปรากฏอยู่มาให้แก่บริษัทฯ และ
    • เมื่อท่านเข้าร่วมกิจกรรมทางการตลาด การจับสลากชิงโชค งานอีเว้นท์ หรือกิจกรรมอื่น ๆ ที่จัดขึ้นโดย  หรือในนามของบริษัทฯ เป็นต้น
  • (ข) ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ เก็บรวบรวมจากท่านโดยอัตโนมัติ 
    บริษัทฯ อาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยอัตโนมัติผ่านช่องทางต่าง ๆ เช่น การใช้คุกกี้ (Cookies)     หรือเทคโนโลยีอื่นๆ ที่คล้ายคลึงกัน รายละเอียดเพิ่มเติมโปรดดู “นโยบายการใช้คุกกี้”
  • (ค) ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ ได้รับมาจากบุคคลภายนอก
    บริษัทฯ อาจได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านมาจากบุคคลภายนอก เช่น 
    • การเก็บข้อมูลจากผู้ให้บริการต่าง ๆ ของบริษัทฯ อาทิ ผู้ให้บริการเว็บไซต์ ผู้ให้บริการแอปพลิเคชัน             ผู้ให้บริการประชาสัมพันธ์และแนะนำสินค้า/บริการ และผู้ให้บริการรวบรวมข้อมูล เป็นต้น
    • ในบางกรณีบริษัทฯ อาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากแหล่งข้อมูลสาธารณะ แหล่งข้อมูลเกี่ยวกับธุรกิจของท่าน หรือแหล่งข้อมูลทางการค้า ไม่ว่าท่านจะเป็นผู้เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลด้วยตนเองหรือได้ให้ความยินยอมแก่ผู้ใดในการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านดังกล่าว

3.2 ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ท่านจะได้รับการแจ้งถึงรายละเอียดต่างๆ ตามที่ระบุในประกาศฯ   ฉบับนี้ ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะ วัตถุประสงค์และฐานทางกฎหมายในการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือ ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล หรือหากเป็นกรณีที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนดให้การประมวลผลข้อมูล               ส่วนบุคคลใดต้องได้รับความยินยอมจากท่าน บริษัทฯ จะขอความยินยอมโดยชัดแจ้งจากท่าน 

3.3 ในกรณีที่บริษัทฯ เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ก่อนวันที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลมีผลใช้บังคับบริษัทฯ จะเก็บรวบรวมและใช้ข้อมูล     ส่วนบุคคลของท่านต่อไปตามวัตถุประสงค์เดิมที่บริษัทฯ ได้แจ้งไว้แก่ท่านในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิ  ยกเลิกความยินยอมโดยติดต่อมายังบริษัทฯ ตามรายละเอียดการติดต่อที่ระบุไว้ในข้อ 9 ของประกาศฯ ฉบับนี้ 

ทั้งนี้ บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิในการพิจารณาคำขอยกเลิกความยินยอมของท่านและดำเนินการตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด

 

  1. ข้อมูลส่วนบุคคลที่ถูกเก็บรวบรวม

ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ถูกเก็บรวบรวมและประมวลผลภายใต้ประกาศฯ ฉบับนี้ ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่   ท่านให้ไว้กับบริษัทฯ โดยตรง หรือข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ เก็บรวบรวมจากท่านโดยอัตโนมัติ หรือข้อมูลส่วนบุคคลที่    บริษัทฯ ได้รับมาจากบุคคลภายนอก ได้แก่

4.1 ข้อมูลส่วนตัว เช่น ชื่อ นามสกุล ชื่อเล่น วัน/เดือน/ปีเกิด อายุ เพศ หมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน หมายเลขหนังสือเดินทาง รูปถ่าย ลายมือชื่อ/ลายมือชื่อดิจิทัล เป็นต้น

4.2 ข้อมูลการติดต่อ เช่น ที่อยู่ตามบัตรประจำตัวประชาชน ที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน ที่อยู่สำหรับจัดส่งไปรษณีย์ ที่พัก   อาศัยปัจจุบัน / ที่อยู่ที่ทำงาน รหัสไปรษณีย์ สถานที่จัดส่งสินค้า สถานที่จัดส่งใบแจ้งหนี้/ใบกำกับภาษี/ใบเสร็จรับเงิน       หมายเลขโทรศัพท์ โทรสาร อีเมล ไอดีผู้ใช้สำหรับไลน์แอปพลิเคชัน (Line ID) และข้อมูลผู้ที่สามารถติดต่อได้ เป็นต้น

4.3 ข้อมูลคำสั่งซื้อ เช่น ประวัติการสั่งซื้อ รายการสินค้า หมายเลขคำสั่งซื้อ หมายเลขพัสดุไปรษณีย์ วันที่สั่งซื้อ วันที่จัดส่งสินค้า แหล่งที่มาของคำสั่งซื้อ สถานะคำสั่งซื้อ ประเภทที่อยู่ จุดสังเกต ข้อมูลการรับสินค้า (เช่น รหัสร้านค้า วันที่ และ   เวลาที่มีการซื้อ)

4.4 ข้อมูลเกี่ยวกับธุรกิจของลูกค้า เช่น ประเภทธุรกิจ รายละเอียดเกี่ยวกับโรงงานของลูกค้า (เช่น ชื่อ เลขทะเบียน     สถานที่ตั้ง และข้อมูลการติดต่อ เป็นต้น) เลขทะเบียนรถยนต์ และประเภทของรถยนต์ และเงื่อนไขการค้า เป็นต้น

4.5 ข้อมูลเกี่ยวกับการชำระเงิน เช่น จำนวนเงิน วงเงินสินเชื่อ เงื่อนไขการชำระเงิน เลขที่บัญชี ข้อมูลส่วนบุคคลที่  ปรากฏในใบแจ้งหนี้ ใบกำกับภาษี ใบเสร็จรับเงิน ใบสำคัญรับเงิน และใบหักบัญชีเงินฝาก เป็นต้น

4.6 ข้อมูลที่ใช้ประกอบเป็นหลักฐานในการลงทะเบียนเป็นลูกค้ากับบริษัทฯ หรือในการทำธุรกรรมต่าง ๆ เช่น ข้อมูล  ส่วนบุคคลที่ปรากฏในสำเนาบัตรประชาชน สำเนาหนังสือเดินทาง สำเนาทะเบียนบ้าน สำเนาใบเปลี่ยนชื่อนามสกุล สำเนาใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงาน แบบฟอร์มลงทะเบียน สำเนาเอกสารสิทธิที่ดิน ใบขอเปิดหน้าบัญชีลูกค้า เอกสารรับรองบุคคลที่ไม่เกี่ยวโยงกัน หนังสือมอบอำนาจ สำเนาหนังสือรับรองบริษัท สำเนาภพ.09/20 แผนที่ เอกสารหลักประกัน (เช่น    โฉนดที่ดิน หนังสือค้ำประกันโดยธนาคาร (Bank Guarantee) และหนังสือค้ำประกันโดยบุคคล) สัญญาซื้อขายหรือสัญญาอื่นใด   ที่เกี่ยวข้องกับธุรกรรม และใบส่งสินค้า เป็นต้น

4.7 ข้อมูลด้านเทคนิค เช่น ข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ (Log) หมายเลขประจำเครื่องคอมพิวเตอร์ (IP Address) และข้อมูลที่บริษัทฯ ได้เก็บรวบรวมผ่านคุกกี้ (Cookies) หรือเทคโนโลยีอื่นที่คล้ายคลึงกัน เป็นต้น

4.8 ข้อมูลอื่น ๆ เช่น บันทึกเสียงการสนทนา และบันทึกภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหวผ่านกล้องวงจรปิด (CCTV) เป็นต้น

  1. วัตถุประสงค์และฐานทางกฎหมายในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล

5.1 บริษัทฯ ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อวัตถุประสงค์ต่าง ๆ ภายใต้ฐานทางกฎหมาย ดังต่อไปนี้      (รวมกันเรียกว่า วัตถุประสงค์ที่กำหนด”)

ลำดับ วัตถุประสงค์ที่กำหนด ฐานทางกฎหมายในการประมวลผล
(ก) เพื่อวัตถุประสงค์ในการคัดเลือกผู้เข้าร่วมประมูลการขายสินค้าของบริษัทฯ และการบริหารจัดการใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับการประมูลขายสินค้า
  • ฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย: การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของผู้เข้าร่วมการประมูลหรือผู้ที่เกี่ยวข้องกับผู้ที่เข้าร่วมการประมูล (ในกรณีที่ผู้เข้าร่วมประมูลเป็นนิติบุคคล) เป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายในการบริหารจัดการประมูลขายสินค้าของบริษัทฯ และกระบวนการที่เกี่ยวข้องต่าง ๆ เช่น การพิจารณาคุณสมบัติผู้เข้าร่วมประมูล การติดต่อสื่อสาร การสรุปผลการประมูล และการรวบรวมหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับผู้ชนะการประมูล เป็นต้น
  • ฐานสัญญา: การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของผู้เข้าร่วมการประมูลเป็นการจำเป็นเพื่อการเข้าสัญญากับผู้เข้าร่วมประมูล หากผู้เข้าร่วมประมูลชนะการประมูล ตลอดจนการซื้อขายสินค้ากับผู้ที่ชนะการประมูล เป็นต้น
(ข) เพื่อวัตถุประสงค์ในการดำเนินการเข้าทำสัญญา และการวางหลักประกัน
  • ฐานสัญญา: การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า หรือบุคคลอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน เป็นการจำเป็นเพื่อการเข้าทำสัญญา และกระบวนการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเข้าทำสัญญา เช่น การตรวจสอบหลักฐานประกอบการทำสัญญา การพิจารณาวงเงินสินเชื่อ และการวางหลักประกัน เป็นต้น
  • ฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย: ในกรณีที่ลูกค้า หรือบุคคลอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกันเป็นนิติบุคคล การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ที่เกี่ยวข้องกับลูกค้าหรือของบุคคลอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน เป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายในการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ เช่น การบริหารจัดการสัญญา การตรวจสอบยืนยันตัวตนของลูกค้า และการพิจารณาคุณสมบัติลูกค้า เป็นต้น
(ค) เพื่อวัตถุประสงค์ในการบริหารจัดการคำสั่งซื้อจากลูกค้า หรือบุคคลอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน
  • ฐานสัญญา: การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า หรือบุคคลอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน เป็นการจำเป็นเพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามสัญญาซื้อขายและบริการ ซึ่งลูกค้าหรือบุคคลอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกันเป็นคู่สัญญา เช่น การสั่งซื้อผ่านช่องทางใด ๆ ไม่ว่าจะเป็นช่องทางของบริษัทฯ โดยตรง หรือช่องทางของบุคคลที่สาม อาทิ ผ่านเว็บไซต์ หรือช่องทางอื่น ๆ เป็นต้น
  • ฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย: ในกรณีที่ลูกค้า หรือบุคคลอื่นในลักษณะคล้ายคลึงกันเป็นนิติบุคคล การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ที่เกี่ยวข้องกับลูกค้าหรือของบุคคลอื่นในลักษณะคล้ายคลึงกัน เป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายในการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ เช่น การบริหารจัดการคำสั่งซื้อจากลูกค้า และการตรวจสอบยืนยันตัวตนของลูกค้า เป็นต้น
(ง) เพื่อวัตถุประสงค์ในการจัดเตรียมสินค้าและ/หรือบริการ และดำเนินการอื่นใดที่เกี่ยวข้อง 
  • ฐานสัญญา: การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า หรือบุคคลอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน เป็นการจำเป็นเพื่อปฏิบัติตามสัญญาซึ่งลูกค้า หรือบุคคลอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกันเป็นคู่สัญญา เช่น การจัดส่งสินค้า การวางบิล การยืนยันยอดหนี้ค้างชำระ และการจัดส่งใบเสร็จรับเงินให้แก่ลูกค้า หรือบุคคลอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน เป็นต้น
  • ฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย: ในกรณีที่ลูกค้า หรือบุคคลอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกันเป็นนิติบุคคล การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ที่เกี่ยวข้องกับลูกค้าหรือของบุคคลอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน เป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายในการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ เช่น การติดต่อสื่อสารกับลูกค้า เป็นต้น
(จ) เพื่อวัตถุประสงค์ในการดำเนินการแก้ไขเปลี่ยนแปลงรายละเอียดเกี่ยวกับลูกค้าในระบบของบริษัทฯ 
  • ฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย: การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า ผู้ที่เกี่ยวข้องกับลูกค้าหรือบุคคลอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน เป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายในการอำนวยความสะดวกแก่ลูกค้า ผู้ที่เกี่ยวข้องกับลูกค้า หรือบุคคลอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน ในการแก้ไขเปลี่ยนแปลงรายละเอียดเกี่ยวกับลูกค้าหรือบุคคลอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน ในระบบของบริษัทฯ ให้มีความถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด
(ฉ) เพื่อวัตถุประสงค์ในการรับเรื่องร้องเรียนจากลูกค้า ผู้ที่เกี่ยวข้องกับลูกค้า หรือบุคคลอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน
  • ฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย: การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า หรือบุคคลอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน เป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายในการอำนวยความสะดวกแก่ลูกค้า ผู้ที่เกี่ยวข้องกับลูกค้า หรือบุคคลอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน ในการร้องเรียน หรือยื่นข้อเสนอแนะจากลูกค้า หรือบุคคลอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน เพื่อเป็นการพัฒนาคุณภาพการให้บริการของบริษัทฯ
(ช) เพื่อวัตถุประสงค์ในการประชาสัมพันธ์และเพื่อกิจกรรมทางการตลาดของบริษัทฯ
  • ฐานความยินยอม: การที่บริษัทฯ จะดำเนินกิจกรรมทางการตลาดใด ๆ อาทิ การส่งข้อความเกี่ยวกับการสื่อสารทางการตลาดให้แก่ลูกค้า การขอถ่ายภาพนิ่งหรือภาพเคลื่อนไหวของลูกค้า เพื่อนำไปประมวลภาพและประชาสัมพันธ์กิจกรรมการตลาดตามช่องทางสื่อต่าง ๆ บริษัทฯ จะดำเนินการโดยอาศัยความยินยอมที่ได้รับจากท่าน
(ซ) เพื่อวัตถุประสงค์ในการวิเคราะห์การใช้งานเว็บไซต์ แอปพลิเคชัน หรือช่องทางอื่น ๆ ของท่าน เพื่อพัฒนาคุณภาพการให้บริการของบริษัทฯ หรือเพื่อวัตถุประสงค์ทางการตลาด
  • ฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย: การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากการใช้งานเว็บไซต์ แอปพลิเคชัน หรือช่องทางอื่น ๆ เป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์ชอบด้วยกฎหมายของบริษัทฯ ในการดำเนินธุรกิจและการพัฒนาคุณภาพการให้บริการของบริษัทฯ เช่น การปรับปรุงเว็บไซต์ แอปพลิเคชัน หรือช่องทานอื่น ๆ การพัฒนาคุณภาพสินค้าและบริการ ตลอดจนการแก้ไขข้อบกพร่องและปัญหาต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับสินค้าและบริการๅ
  • ฐานความยินยอม: ในกรณีที่บริษัทฯ เก็บรวบรวมและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อนำมาวิเคราะห์พฤติกรรมและทำโฆษณาแบบเจาะจงตามพฤติกรรมของท่านหรือทำการตลาดแบบตรง หรือในกรณีที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนดให้ต้องได้รับความยินยอมจากท่าน บริษัทฯ จะดำเนินการโดยอาศัยความยินยอมที่ได้รับจากท่าน
(ฌ) เพื่อวัตถุประสงค์ในการติดต่อสื่อสาร กับลูกค้า หรือบุคคลอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน ฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย: การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย ในการติดต่อสื่อสารกับท่าน เกี่ยวกับการให้บริการต่าง ๆ ของบริษัทฯ เช่น การดำเนินการตามคำขอใช้บริการ การตอบข้อซักถาม หรือข้อเสนอแนะของท่าน เป็นต้น
(ญ) เพื่อวัตถุประสงค์ในการปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของบริษัทฯ และคำสั่งโดยชอบด้วยกฎหมายของหน่วยงานของรัฐและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ฐานกฎหมาย: เพื่อการปฏิบัติตามกฎหมายซึ่งบังคับใช้กับบริษัทฯ อาทิ กฎหมายว่าด้วยภาษีอากร กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และคำสั่งโดยชอบด้วยกฎหมายของหน่วยงานของรัฐและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เป็นต้น
(ฎ) เพื่อวัตถุประสงค์ในการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้ซึ่งสิทธิเรียกร้องของบริษัทฯ  ฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย: การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเป็นการจำเป็นเพื่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้ซึ่งสิทธิเรียกร้องของบริษัทฯ ในขั้นตอนต่าง ๆ ตามกฎหมาย เช่น การสอบสวนและ/หรือการไต่สวนโดยเจ้าหน้าที่รัฐ การเตรียมคดี การดำเนินคดี และ/หรือการต่อสู้คดีในชั้นศาล เป็นต้น
(ฏ) เพื่อวัตถุประสงค์ในการตรวจสอบดูแลความสงบเรียบร้อยและรักษาความปลอดภัยของบุคคล และ ทรัพย์สินของบริษัทฯ
  • ฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย: การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย ในการตรวจสอบดูแลความสงบเรียบร้อยและรักษาความปลอดภัยในทรัพย์สินของบริษัทฯ หรือการใช้ภาพบันทึกจากกล้องวงจรปิด (CCTV) เพื่อป้องกันการสูญหาย หรือเสียหายในทรัพย์สินของบริษัทฯ หรือใช้เพื่อติดตามเอาคืนทรัพย์สิน หรือเรียกให้ชดใช้ค่าเสียหาย ในกรณีที่มีการทำให้ทรัพย์สินของบริษัทฯ สูญหาย หรือเสียหาย เป็นต้น
  • ฐานการป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล: การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์ในการตรวจสอบดูแล ป้องกัน หรือระงับเหตุการณ์ใด ๆ ที่อาจเป็นอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล
(ฐ) เพื่อการดำเนินการใด ๆ ที่จำเป็นและเป็นประโยชน์ต่อท่าน หรือเกี่ยวข้องโดยตรงกับวัตถุประสงค์ที่กำหนดใด ๆ ข้างต้น
  • ฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย: การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์ชอบด้วยกฎหมายของบริษัทฯ ในการดำเนินการใด ๆ ที่จำเป็นของบริษัทฯ และ/หรือเป็นประโยชน์ต่อท่าน หรือเกี่ยวข้องโดยตรงกับวัตถุประสงค์ที่กำหนดข้างต้น ทั้งนี้ หากเป็นกรณีที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนดให้การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลใดต้องได้รับความยินยอมจากท่าน บริษัทฯ จะขอความยินยอมโดยชัดแจ้งจากท่าน
(ฑ) เพื่อวัตถุประสงค์อื่น ๆ ที่บริษัทฯ จะแจ้งให้ท่านทราบ 
  • บริษัทฯ จะแจ้งให้ท่านทราบถึงวัตถุประสงค์อื่นใดอันเป็นเหตุให้บริษัทฯ ต้องประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านนอกเหนือไปจากวัตถุประสงค์ตามที่ระบุไว้ข้างต้น หรือเมื่อบริษัทฯ มีการเปลี่ยนแปลงวัตถุประสงค์เดิมที่กำหนดไว้
    ทั้งนี้ หากเป็นกรณีที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนดให้การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลใดต้องได้รับความยินยอมจากท่าน บริษัทฯ จะขอความยินยอมโดยชัดแจ้งจากท่าน

 

5.2 เนื่องจากข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่บริษัทฯ จะดำเนินการประมวลผลเพื่อวัตถุประสงค์ที่กำหนดตามข้อ 5.1     ข้างต้นในส่วนที่มีความเกี่ยวเนื่องกับการปฏิบัติตามกฎหมายหรือสัญญาหรือมีความจำเป็นเพื่อเข้าทำสัญญากับท่าน เป็นข้อมูล    ที่จำเป็นต่อการบรรลุวัตถุประสงค์ดังกล่าว หากท่านไม่ประสงค์ที่จะให้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวแก่บริษัทฯ อาจมีผลกระทบ   ทางกฎหมาย หรืออาจทำให้บริษัทฯ ไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ภายใต้สัญญาที่ได้เข้าทำกับท่าน หรือไม่สามารถเข้าทำสัญญากับ  ท่านได้ (แล้วแต่กรณี) ในกรณีดังกล่าว บริษัทฯ อาจมีความจำเป็นต้องปฏิเสธการเข้าทำสัญญากับท่าน หรือยกเลิกการซื้อขาย   หรือการให้บริการที่เกี่ยวข้องกับท่าน ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน

5.3 ในกรณีที่บริษัทฯ จะดำเนินการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในลักษณะ และ/หรือเพื่อวัตถุประสงค์ที่        ไม่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ข้างต้น บริษัทฯ จะจัดให้มีนโยบายหรือประกาศเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเพิ่มเติม และ/หรือมีหนังสือไปยังท่านเพื่ออธิบายการประมวลผลข้อมูลในลักษณะดังกล่าว โดยท่านควรอ่านนโยบายหรือ ประกาศเพิ่มเติมที่เกี่ยวข้องร่วมกับประกาศฯ ฉบับนี้ และ/หรือหนังสือดังกล่าว (แล้วแต่กรณี)

 

  1. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

6.1 บริษัทฯ อาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ภายใต้วัตถุประสงค์ที่กำหนดและตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด ให้แก่บุคคลและหน่วยงานดังต่อไปนี้

6.2 การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้กับบุคคลอื่น จะดำเนินการภายใต้วัตถุประสงค์ที่กำหนด หรือวัตถุประสงค์อื่นที่กฎหมายกำหนดให้กระทำได้เท่านั้น ในกรณีที่กฎหมายกำหนดว่าต้องได้รับความยินยอมจากท่าน บริษัทฯ จะขอความยินยอมจากท่านก่อน

6.3 ในการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้กับบุคคลอื่น บริษัทฯ จะจัดให้มีมาตรการที่เหมาะสมเพื่อคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้เปิดเผยและเพื่อปฏิบัติตามมาตรฐานและหน้าที่การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด ทั้งนี้ ในกรณีที่บริษัทฯ ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปต่างประเทศ บริษัทฯ จะดำเนินการเพื่อทำให้แน่ใจว่าประเทศปลายทาง องค์การระหว่างประเทศ หรือผู้รับข้อมูลในต่างประเทศนั้นมีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เพียงพอหรือเพื่อทำให้แน่ใจว่าการส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปต่างประเทศเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด โดยในบางกรณี บริษัทฯ อาจขอความยินยอมของท่านสำหรับการส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังต่างประเทศดังกล่าว

 

  1. ระยะเวลาเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทฯ จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามระยะเวลาที่จำเป็นเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ที่กำหนดในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลนั้น ๆ โดยระยะเวลาเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลจะเปลี่ยนแปลงไปโดยขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ที่กำหนดในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลนั้น ๆ นอกจากนี้ บริษัทฯ จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลเป็นระยะเวลาตามที่กฎหมายที่เกี่ยวข้องกำหนด (ถ้ามี) โดยคำนึงถึงอายุความตามกฎหมายสำหรับการดำเนินคดีที่อาจเกิดขึ้นจากหรือเกี่ยวข้องกับเอกสารหรือข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ เก็บรวบรวมไว้ในแต่ละรายการ และโดยคำนึงถึงแนวปฏิบัติของบริษัทฯ และของภาคธุรกิจที่เกี่ยวข้องสำหรับข้อมูลส่วนบุคคลแต่ละประเภทเป็นสำคัญ

หลังจากครบกำหนดระยะเวลาดังกล่าวข้างต้น บริษัทฯ จะลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว จากการจัดเก็บหรือระบบของบริษัทฯ และของบุคคลอื่นซึ่งให้บริการแก่บริษัทฯ (ถ้ามี) หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวท่านได้ เว้นแต่จะเป็นกรณีที่บริษัทฯ สามารถเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวได้ต่อไปตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลหรือกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องกำหนด ทั้งนี้ สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับระยะเวลาเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ท่านสามารถติดต่อมายังบริษัทฯ ตามรายละเอียดการติดต่อที่ระบุไว้ในข้อ 9 ของประกาศฯ ฉบับนี้

 

  1. สิทธิต่าง ๆ ของท่านเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล

ในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านดังต่อไปนี้ ภายใต้หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งนี้ หากท่านประสงค์ที่จะขอใช้สิทธิของท่าน ท่านสามารถติดต่อมายังบริษัทฯ ตามรายละเอียดการติดต่อในข้อ 9 ของประกาศฯ ฉบับนี้

8.1 สิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านและขอให้บริษัทฯ ทำสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวให้แก่ท่าน ทั้งนี้ ตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด

8.2 สิทธิในการโอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิที่จะขอรับข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับท่าน รวมถึงมีสิทธิขอให้ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลรายอื่น หรือตัวท่านเอง เว้นแต่โดยสภาพไม่สามารถทำได้ ทั้งนี้ ตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด

8.3 สิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิขอคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ในกรณีที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด

8.4 สิทธิในการลบข้อมูลส่วนบุคคล ท่านอาจขอให้บริษัทฯ ลบ ทำลายหรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้ในกรณีที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด

8.5 สิทธิในการระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทฯ ระงับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในกรณีที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด

8.6 สิทธิในการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง ท่านมีสิทธิขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ถูกต้อง หากข้อมูลส่วนบุคคลของท่านนั้นไม่ถูกต้อง ไม่เป็นปัจจุบัน ไม่ครบถ้วนสมบูรณ์ หรือก่อให้เกิดความเข้าใจผิด

8.7 สิทธิที่จะเพิกถอนความยินยอม ในกรณีที่บริษัทฯ อาศัยความยินยอมของท่านในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลฯ ของท่าน ท่านมีสิทธิในการเพิกถอนความยินยอมในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ความยินยอมกับบริษัทฯ ได้

8.8 สิทธิในการยื่นข้อร้องเรียน หากท่านมีความกังวลหรือมีข้อสงสัยเกี่ยวกับแนวทางการปฏิบัติของบริษัทฯ เกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน โปรดติดต่อบริษัทฯ โดยใช้รายละเอียดการติดต่อตามข้อ 9 ของประกาศฯ ฉบับนี้ ทั้งนี้ ในกรณีที่มีเหตุให้เชื่อได้ว่าบริษัทฯ ได้ทำการฝ่าฝืนกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิยื่นข้อร้องเรียนต่อคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญที่ได้รับการแต่งตั้งโดยคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลตามระเบียบและวิธีการตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด

 

  1. วิธีการติดต่อบริษัทฯ

บริษัทฯ ได้มอบหมายให้ บริษัท ยูนิฟาย เคมิคอล จำกัด เป็นผู้ประสานงานเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทฯ ในกรณีที่ท่านมีข้อสงสัยใด ๆ หรือต้องการใช้สิทธิของท่านตามที่กำหนดไว้ในประกาศฯ นี้ ท่านสามารถติดต่อบริษัทฯ ผ่านช่องทาง ดังนี้

เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Data Protection Officer)

อีเมล: dpo@unifychemical.com

สถานที่ติดต่อ: บริษัท ยูนิฟาย เคมิคอล จำกัด

72/66-67 หมู่ 3 ตำบลบางตลาด อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี 11120 ประเทศไทย

 โทรศัพท์ : 02-962-6440-1

  1. การเปลี่ยนแปลงประกาศฯ ฉบับนี้

บริษัทฯ อาจทำการเปลี่ยนแปลงประกาศฯ ฉบับนี้เป็นครั้งคราว เพื่อให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ที่เกี่ยวกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน และตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลหรือกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องกำหนด โดยบริษัทฯ จะแจ้งให้ท่านทราบถึงการแก้ไขเปลี่ยนแปลงประกาศฯ ที่สำคัญใด ๆ พร้อมกับ ประกาศฯ ฉบับปรับปรุง ผ่านช่องทางที่เหมาะสม ทั้งนี้ บริษัทฯ ขอแนะนำให้ท่านตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงประกาศฯ ฉบับนี้เป็นระยะ ๆ

 

ให้ประกาศฯ ฉบับนี้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่  1 มิถุนายน พ.ศ. 2565

ประกาศเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Notice)

สำหรับกระบวนการที่เกี่ยวข้องกับพันธมิตรทางธุรกิจ

ของบริษัท ยูนิฟาย เคมิคอล จำกัด

  1. บททั่วไป

เพื่อเป็นการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 และกฎหมายลำดับรองที่เกี่ยวข้อง และ

ให้หมายความรวมถึงกฎหมายฉบับแก้ไขเพิ่มเติมใดๆ ในอนาคต (“กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล”)

บริษัท ยูนิฟาย เคมิคอล จำกัด (“บริษัทฯ”) จึงจัดทำประกาศเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Notice) สำหรับกระบวนการที่เกี่ยวข้องกับลูกค้าของบริษัท ยูนิฟาย เคมิคอล จำกัด (“ประกาศฯ”) ฉบับนี้ขึ้น เพื่ออธิบายให้ท่านทราบถึงวิธีการ

ที่บริษัทฯ ปฏิบัติต่อข้อมูลที่สามารถระบุตัวตนของท่าน หรืออาจจะระบุตัวตนของท่านได้ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม ตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (“ข้อมูลส่วนบุคคล”) เช่น วิธีการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย หรือการดำเนินการใดๆ กับข้อมูลส่วนบุคคลไม่ว่าด้วยวิธีการอัตโนมัติหรือไม่ก็ตาม อาทิ การบันทึก การจัดระบบ การจัดเก็บ การปรับเปลี่ยนหรือการดัดแปลง การเรียกคืน การส่ง โอน การเผยแพร่หรือการทำให้สามารถเข้าถึงหรือพร้อมใช้งานโดยวิธีใด ๆ การจัดเรียง การนำมารวมกัน การจำกัดหรือการห้ามเข้าถึง การลบหรือการทำลาย (“ประมวลผล”) และเพื่อแจ้งให้ท่านทราบถึงวัตถุประสงค์ในการประมวลผล ระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล ตลอดจนสิทธิของท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งนี้ บริษัทฯ ขอแนะนำให้ท่านอ่านและทำความเข้าใจถึงข้อกำหนดต่าง ๆ ภายใต้ประกาศฯ โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

 

  1. กลุ่มหรือประเภทของบุคคลที่บริษัทฯ ทำการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล

ภายใต้ประกาศฯ ฉบับนี้ กลุ่มหรือประเภทของบุคคลที่บริษัทฯ ทำการเก็บรวบรวมและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลประกอบด้วย

2.1 ลูกค้า ซึ่งหมายถึง บุคคลที่ซื้อสินค้าและ/หรือใช้บริการจากบริษัทฯ และ/หรืออาจจะซื้อสินค้าและ/หรือใช้บริการ

จากบริษัทฯ หรือบุคคลอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน อาทิ ผู้เข้าร่วมกิจกรรม ผู้เข้าร่วมสัมมนา ผู้เข้าร่วมการประมูล

ผู้ใช้บริการเว็บไซต์ ผู้ใช้บริการแอปพลิเคชัน ผู้ที่ติดต่อเพื่อขอรับข้อมูลหรือขอรับบริการจากบริษัทฯ และผู้ตอบแบบสอบถามเกี่ยวกับสินค้าและ/หรือบริการของบริษัทฯ เป็นต้น

2.2 ผู้ที่เกี่ยวข้องกับลูกค้า ซึ่งหมายถึง บุคคลที่เกี่ยวข้องหรือเป็นตัวแทนของลูกค้า เช่น ผู้บริหาร กรรมการ พนักงาน ตัวแทน หรือบุคลากรใด ๆ ของลูกค้าซึ่งเป็นนิติบุคคล และให้หมายความรวมถึงผู้ที่ข้อมูลส่วนบุคคลปรากฏในเอกสารต่างๆ

ที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการที่เกี่ยวข้อง อาทิ ผู้จัดการ ผู้สั่งซื้อ ผู้รับสินค้า และผู้สั่งจ่ายเช็ค เป็นต้น

 

  1. วิธีที่บริษัทฯ เก็บรวบรวมและรับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

3.1 บริษัทฯ เก็บรวบรวมและรับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านผ่านช่องทางต่าง ๆ ดังนี้

  • (ก)ข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านให้ไว้กับบริษัทฯ โดยตรง
    ท่านอาจให้ข้อมูลส่วนบุคคลแก่บริษัทฯ โดยตรง เช่น
    • เมื่อท่านติดต่อสื่อสาร สอบถามข้อมูล ให้ความเห็นหรือคำติชมแก่บริษัทฯ ไม่ว่าจะเป็นการสื่อสารเป็น ในรูปแบบลายลักษณ์อักษรหรือวาจา ผ่านทางเว็บไซต์ แอปพลิเคชัน โทรศัพท์ อีเมล โทรสาร ไปรษณีย์   การพบปะกันโดยตรง หรือโดยวิธีการอื่นใด
    • เมื่อท่านแสดงเจตนาเพื่อซื้อสินค้าหรือใช้บริการจากบริษัทฯ เข้าทำสัญญากับบริษัทฯ หรือส่งมอบ เอกสารต่างๆ ซึ่งมีข้อมูลส่วนบุคคลปรากฏอยู่มาให้แก่บริษัทฯ และ
    • เมื่อท่านเข้าร่วมกิจกรรมทางการตลาด การจับสลากชิงโชค งานอีเว้นท์ หรือกิจกรรมอื่น ๆ ที่จัดขึ้นโดย หรือในนามของบริษัทฯ เป็นต้น
  • (ข)ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ เก็บรวบรวมจากท่านโดยอัตโนมัติ
    บริษัทฯ อาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยอัตโนมัติผ่านช่องทางต่าง ๆ เช่น การใช้คุกกี้ (Cookies)     หรือเทคโนโลยีอื่นๆ ที่คล้ายคลึงกัน รายละเอียดเพิ่มเติมโปรดดู “นโยบายการใช้คุกกี้”
  • (ค)ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ ได้รับมาจากบุคคลภายนอก
    บริษัทฯ อาจได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านมาจากบุคคลภายนอก เช่น
    • การเก็บข้อมูลจากผู้ให้บริการต่าง ๆ ของบริษัทฯ อาทิ ผู้ให้บริการเว็บไซต์ ผู้ให้บริการแอปพลิเคชัน ผู้ให้บริการประชาสัมพันธ์และแนะนำสินค้า/บริการ และผู้ให้บริการรวบรวมข้อมูล เป็นต้น
    • ในบางกรณีบริษัทฯ อาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากแหล่งข้อมูลสาธารณะ แหล่งข้อมูลเกี่ยวกับธุรกิจของท่าน หรือแหล่งข้อมูลทางการค้า ไม่ว่าท่านจะเป็นผู้เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลด้วยตนเองหรือได้ให้ความยินยอมแก่ผู้ใดในการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านดังกล่าว

3.2 ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ท่านจะได้รับการแจ้งถึงรายละเอียดต่างๆ ตามที่ระบุในประกาศฯ   ฉบับนี้ ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะ วัตถุประสงค์และฐานทางกฎหมายในการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือ ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล หรือหากเป็นกรณีที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนดให้การประมวลผลข้อมูล               ส่วนบุคคลใดต้องได้รับความยินยอมจากท่าน บริษัทฯ จะขอความยินยอมโดยชัดแจ้งจากท่าน

3.3 ในกรณีที่บริษัทฯ เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ก่อนวันที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลมีผลใช้บังคับบริษัทฯ จะเก็บรวบรวมและใช้ข้อมูล     ส่วนบุคคลของท่านต่อไปตามวัตถุประสงค์เดิมที่บริษัทฯ ได้แจ้งไว้แก่ท่านในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิ  ยกเลิกความยินยอมโดยติดต่อมายังบริษัทฯ ตามรายละเอียดการติดต่อที่ระบุไว้ในข้อ 9 ของประกาศฯ ฉบับนี้

ทั้งนี้ บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิในการพิจารณาคำขอยกเลิกความยินยอมของท่านและดำเนินการตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด

 

  1. ข้อมูลส่วนบุคคลที่ถูกเก็บรวบรวม

ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ถูกเก็บรวบรวมและประมวลผลภายใต้ประกาศฯ ฉบับนี้ ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่   ท่านให้ไว้กับบริษัทฯ โดยตรง หรือข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ เก็บรวบรวมจากท่านโดยอัตโนมัติ หรือข้อมูลส่วนบุคคลที่    บริษัทฯ ได้รับมาจากบุคคลภายนอก ได้แก่

4.1 ข้อมูลส่วนตัว เช่น ชื่อ นามสกุล ชื่อเล่น วัน/เดือน/ปีเกิด อายุ เพศ หมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน หมายเลขหนังสือเดินทาง รูปถ่าย ลายมือชื่อ/ลายมือชื่อดิจิทัล เป็นต้น

4.2 ข้อมูลการติดต่อ เช่น ที่อยู่ตามบัตรประจำตัวประชาชน ที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน ที่อยู่สำหรับจัดส่งไปรษณีย์ ที่พัก   อาศัยปัจจุบัน / ที่อยู่ที่ทำงาน รหัสไปรษณีย์ สถานที่จัดส่งสินค้า สถานที่จัดส่งใบแจ้งหนี้/ใบกำกับภาษี/ใบเสร็จรับเงิน       หมายเลขโทรศัพท์ โทรสาร อีเมล ไอดีผู้ใช้สำหรับไลน์แอปพลิเคชัน (Line ID) และข้อมูลผู้ที่สามารถติดต่อได้ เป็นต้น

4.3 ข้อมูลคำสั่งซื้อ เช่น ประวัติการสั่งซื้อ รายการสินค้า หมายเลขคำสั่งซื้อ หมายเลขพัสดุไปรษณีย์ วันที่สั่งซื้อ วันที่จัดส่งสินค้า แหล่งที่มาของคำสั่งซื้อ สถานะคำสั่งซื้อ ประเภทที่อยู่ จุดสังเกต ข้อมูลการรับสินค้า (เช่น รหัสร้านค้า วันที่ และ   เวลาที่มีการซื้อ)

4.4 ข้อมูลเกี่ยวกับธุรกิจของลูกค้า เช่น ประเภทธุรกิจ รายละเอียดเกี่ยวกับโรงงานของลูกค้า (เช่น ชื่อ เลขทะเบียน     สถานที่ตั้ง และข้อมูลการติดต่อ เป็นต้น) เลขทะเบียนรถยนต์ และประเภทของรถยนต์ และเงื่อนไขการค้า เป็นต้น

4.5 ข้อมูลเกี่ยวกับการชำระเงิน เช่น จำนวนเงิน วงเงินสินเชื่อ เงื่อนไขการชำระเงิน เลขที่บัญชี ข้อมูลส่วนบุคคลที่  ปรากฏในใบแจ้งหนี้ ใบกำกับภาษี ใบเสร็จรับเงิน ใบสำคัญรับเงิน และใบหักบัญชีเงินฝาก เป็นต้น

4.6 ข้อมูลที่ใช้ประกอบเป็นหลักฐานในการลงทะเบียนเป็นลูกค้ากับบริษัทฯ หรือในการทำธุรกรรมต่าง ๆ เช่น ข้อมูล  ส่วนบุคคลที่ปรากฏในสำเนาบัตรประชาชน สำเนาหนังสือเดินทาง สำเนาทะเบียนบ้าน สำเนาใบเปลี่ยนชื่อนามสกุล สำเนาใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงาน แบบฟอร์มลงทะเบียน สำเนาเอกสารสิทธิที่ดิน ใบขอเปิดหน้าบัญชีลูกค้า เอกสารรับรองบุคคลที่ไม่เกี่ยวโยงกัน หนังสือมอบอำนาจ สำเนาหนังสือรับรองบริษัท สำเนาภพ.09/20 แผนที่ เอกสารหลักประกัน (เช่น    โฉนดที่ดิน หนังสือค้ำประกันโดยธนาคาร (Bank Guarantee) และหนังสือค้ำประกันโดยบุคคล) สัญญาซื้อขายหรือสัญญาอื่นใด   ที่เกี่ยวข้องกับธุรกรรม และใบส่งสินค้า เป็นต้น

4.7 ข้อมูลด้านเทคนิค เช่น ข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ (Log) หมายเลขประจำเครื่องคอมพิวเตอร์ (IP Address) และข้อมูลที่บริษัทฯ ได้เก็บรวบรวมผ่านคุกกี้ (Cookies) หรือเทคโนโลยีอื่นที่คล้ายคลึงกัน เป็นต้น

4.8 ข้อมูลอื่น ๆ เช่น บันทึกเสียงการสนทนา และบันทึกภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหวผ่านกล้องวงจรปิด (CCTV) เป็นต้น

  1. วัตถุประสงค์และฐานทางกฎหมายในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล

5.1 บริษัทฯ ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อวัตถุประสงค์ต่าง ๆ ภายใต้ฐานทางกฎหมาย ดังต่อไปนี้      (รวมกันเรียกว่า “วัตถุประสงค์ที่กำหนด”)

ลำดับ วัตถุประสงค์ที่กำหนด ฐานทางกฎหมายในการประมวลผล
(ก) เพื่อวัตถุประสงค์ในการคัดเลือกผู้เข้าร่วมประมูลการขายสินค้าของบริษัทฯ และการบริหารจัดการใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับการประมูลขายสินค้า
  • ฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย: การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของผู้เข้าร่วมการประมูลหรือผู้ที่เกี่ยวข้องกับผู้ที่เข้าร่วมการประมูล (ในกรณีที่ผู้เข้าร่วมประมูลเป็นนิติบุคคล) เป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายในการบริหารจัดการประมูลขายสินค้าของบริษัทฯ และกระบวนการที่เกี่ยวข้องต่าง ๆ เช่น การพิจารณาคุณสมบัติผู้เข้าร่วมประมูล การติดต่อสื่อสาร การสรุปผลการประมูล และการรวบรวมหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับผู้ชนะการประมูล เป็นต้น

·        ฐานสัญญา: การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของผู้เข้าร่วมการประมูลเป็นการจำเป็นเพื่อการเข้าสัญญากับผู้เข้าร่วมประมูล หากผู้เข้าร่วมประมูลชนะการประมูล ตลอดจนการซื้อขายสินค้ากับผู้ที่ชนะการประมูล เป็นต้น

(ข) เพื่อวัตถุประสงค์ในการดำเนินการเข้าทำสัญญา และการวางหลักประกัน
  • ฐานสัญญา: การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า หรือบุคคลอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน เป็นการจำเป็นเพื่อการเข้าทำสัญญา และกระบวนการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเข้าทำสัญญา เช่น การตรวจสอบหลักฐานประกอบการทำสัญญา การพิจารณาวงเงินสินเชื่อ และการวางหลักประกัน เป็นต้น

·        ฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย: ในกรณีที่ลูกค้า หรือบุคคลอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกันเป็นนิติบุคคล การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ที่เกี่ยวข้องกับลูกค้าหรือของบุคคลอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน เป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายในการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ เช่น การบริหารจัดการสัญญา การตรวจสอบยืนยันตัวตนของลูกค้า และการพิจารณาคุณสมบัติลูกค้า เป็นต้น

(ค) เพื่อวัตถุประสงค์ในการบริหารจัดการคำสั่งซื้อจากลูกค้า หรือบุคคลอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน
  • ฐานสัญญา: การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า หรือบุคคลอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน เป็นการจำเป็นเพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามสัญญาซื้อขายและบริการ ซึ่งลูกค้าหรือบุคคลอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกันเป็นคู่สัญญา เช่น การสั่งซื้อผ่านช่องทางใด ๆ ไม่ว่าจะเป็นช่องทางของบริษัทฯ โดยตรง หรือช่องทางของบุคคลที่สาม อาทิ ผ่านเว็บไซต์ หรือช่องทางอื่น ๆ เป็นต้น

·        ฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย: ในกรณีที่ลูกค้า หรือบุคคลอื่นในลักษณะคล้ายคลึงกันเป็นนิติบุคคล การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ที่เกี่ยวข้องกับลูกค้าหรือของบุคคลอื่นในลักษณะคล้ายคลึงกัน เป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายในการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ เช่น การบริหารจัดการคำสั่งซื้อจากลูกค้า และการตรวจสอบยืนยันตัวตนของลูกค้า เป็นต้น

(ง) เพื่อวัตถุประสงค์ในการจัดเตรียมสินค้าและ/หรือบริการ และดำเนินการอื่นใดที่เกี่ยวข้อง
  • ฐานสัญญา: การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า หรือบุคคลอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน เป็นการจำเป็นเพื่อปฏิบัติตามสัญญาซึ่งลูกค้า หรือบุคคลอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกันเป็นคู่สัญญา เช่น การจัดส่งสินค้า การวางบิล การยืนยันยอดหนี้ค้างชำระ และการจัดส่งใบเสร็จรับเงินให้แก่ลูกค้า หรือบุคคลอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน เป็นต้น

·        ฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย: ในกรณีที่ลูกค้า หรือบุคคลอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกันเป็นนิติบุคคล การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ที่เกี่ยวข้องกับลูกค้าหรือของบุคคลอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน เป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายในการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ เช่น การติดต่อสื่อสารกับลูกค้า เป็นต้น

 

 

(จ) เพื่อวัตถุประสงค์ในการดำเนินการแก้ไขเปลี่ยนแปลงรายละเอียดเกี่ยวกับลูกค้าในระบบของบริษัทฯ

·        ฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย: การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า ผู้ที่เกี่ยวข้องกับลูกค้าหรือบุคคลอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน เป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายในการอำนวยความสะดวกแก่ลูกค้า ผู้ที่เกี่ยวข้องกับลูกค้า หรือบุคคลอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน ในการแก้ไขเปลี่ยนแปลงรายละเอียดเกี่ยวกับลูกค้าหรือบุคคลอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน ในระบบของบริษัทฯ ให้มีความถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด

 

 

(ฉ) เพื่อวัตถุประสงค์ในการรับเรื่องร้องเรียนจากลูกค้า ผู้ที่เกี่ยวข้องกับลูกค้า หรือบุคคลอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน

·        ฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย: การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า หรือบุคคลอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน เป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายในการอำนวยความสะดวกแก่ลูกค้า ผู้ที่เกี่ยวข้องกับลูกค้า หรือบุคคลอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน ในการร้องเรียน หรือยื่นข้อเสนอแนะจากลูกค้า หรือบุคคลอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน เพื่อเป็นการพัฒนาคุณภาพการให้บริการของบริษัทฯ

 

 

(ช) เพื่อวัตถุประสงค์ในการประชาสัมพันธ์และเพื่อกิจกรรมทางการตลาดของบริษัทฯ

·        ฐานความยินยอม: การที่บริษัทฯ จะดำเนินกิจกรรมทางการตลาดใด ๆ อาทิ การส่งข้อความเกี่ยวกับการสื่อสารทางการตลาดให้แก่ลูกค้า การขอถ่ายภาพนิ่งหรือภาพเคลื่อนไหวของลูกค้า เพื่อนำไปประมวลภาพและประชาสัมพันธ์กิจกรรมการตลาดตามช่องทางสื่อต่าง ๆ บริษัทฯ จะดำเนินการโดยอาศัยความยินยอมที่ได้รับจากท่าน

 

 

 

(ซ) เพื่อวัตถุประสงค์ในการวิเคราะห์การใช้งานเว็บไซต์ แอปพลิเคชัน หรือช่องทางอื่น ๆ ของท่าน เพื่อพัฒนาคุณภาพการให้บริการของบริษัทฯ หรือเพื่อวัตถุประสงค์ทางการตลาด
  • ฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย: การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากการใช้งานเว็บไซต์ แอปพลิเคชัน หรือช่องทางอื่น ๆ เป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์ชอบด้วยกฎหมายของบริษัทฯ ในการดำเนินธุรกิจและการพัฒนาคุณภาพการให้บริการของบริษัทฯ เช่น การปรับปรุงเว็บไซต์ แอปพลิเคชัน หรือช่องทานอื่น ๆ การพัฒนาคุณภาพสินค้าและบริการ ตลอดจนการแก้ไขข้อบกพร่องและปัญหาต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับสินค้าและบริการๅ

·        ฐานความยินยอม: ในกรณีที่บริษัทฯ เก็บรวบรวมและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อนำมาวิเคราะห์พฤติกรรมและทำโฆษณาแบบเจาะจงตามพฤติกรรมของท่านหรือทำการตลาดแบบตรง หรือในกรณีที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนดให้ต้องได้รับความยินยอมจากท่าน บริษัทฯ จะดำเนินการโดยอาศัยความยินยอมที่ได้รับจากท่าน

 

(ฌ) เพื่อวัตถุประสงค์ในการติดต่อสื่อสาร กับลูกค้า หรือบุคคลอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน

ฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย: การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย ในการติดต่อสื่อสารกับท่าน เกี่ยวกับการให้บริการต่าง ๆ ของบริษัทฯ เช่น การดำเนินการตามคำขอใช้บริการ การตอบข้อซักถาม หรือข้อเสนอแนะของท่าน เป็นต้น

 

 

(ญ) เพื่อวัตถุประสงค์ในการปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของบริษัทฯ และคำสั่งโดยชอบด้วยกฎหมายของหน่วยงานของรัฐและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง

ฐานกฎหมาย: เพื่อการปฏิบัติตามกฎหมายซึ่งบังคับใช้กับบริษัทฯ อาทิ กฎหมายว่าด้วยภาษีอากร กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และคำสั่งโดยชอบด้วยกฎหมายของหน่วยงานของรัฐและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เป็นต้น

 

 

(ฎ) เพื่อวัตถุประสงค์ในการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้ซึ่งสิทธิเรียกร้องของบริษัทฯ

ฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย: การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเป็นการจำเป็นเพื่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้ซึ่งสิทธิเรียกร้องของบริษัทฯ ในขั้นตอนต่าง ๆ ตามกฎหมาย เช่น การสอบสวนและ/หรือการไต่สวนโดยเจ้าหน้าที่รัฐ การเตรียมคดี การดำเนินคดี และ/หรือการต่อสู้คดีในชั้นศาล เป็นต้น

 

(ฏ) เพื่อวัตถุประสงค์ในการตรวจสอบดูแลความสงบเรียบร้อยและรักษาความปลอดภัยของบุคคล และ ทรัพย์สินของบริษัทฯ
  • ฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย: การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย ในการตรวจสอบดูแลความสงบเรียบร้อยและรักษาความปลอดภัยในทรัพย์สินของบริษัทฯ หรือการใช้ภาพบันทึกจากกล้องวงจรปิด (CCTV) เพื่อป้องกันการสูญหาย หรือเสียหายในทรัพย์สินของบริษัทฯ หรือใช้เพื่อติดตามเอาคืนทรัพย์สิน หรือเรียกให้ชดใช้ค่าเสียหาย ในกรณีที่มีการทำให้ทรัพย์สินของบริษัทฯ สูญหาย หรือเสียหาย เป็นต้น

·        ฐานการป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล: การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์ในการตรวจสอบดูแล ป้องกัน หรือระงับเหตุการณ์ใด ๆ ที่อาจเป็นอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล

 

(ฐ) เพื่อการดำเนินการใด ๆ ที่จำเป็นและเป็นประโยชน์ต่อท่าน หรือเกี่ยวข้องโดยตรงกับวัตถุประสงค์ที่กำหนดใด ๆ ข้างต้น

·        ฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย: การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์ชอบด้วยกฎหมายของบริษัทฯ ในการดำเนินการใด ๆ ที่จำเป็นของบริษัทฯ และ/หรือเป็นประโยชน์ต่อท่าน หรือเกี่ยวข้องโดยตรงกับวัตถุประสงค์ที่กำหนดข้างต้น ทั้งนี้ หากเป็นกรณีที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนดให้การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลใดต้องได้รับความยินยอมจากท่าน บริษัทฯ จะขอความยินยอมโดยชัดแจ้งจากท่าน

 

(ฑ) เพื่อวัตถุประสงค์อื่น ๆ ที่บริษัทฯ จะแจ้งให้ท่านทราบ ·        บริษัทฯ จะแจ้งให้ท่านทราบถึงวัตถุประสงค์อื่นใดอันเป็นเหตุให้บริษัทฯ ต้องประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านนอกเหนือไปจากวัตถุประสงค์ตามที่ระบุไว้ข้างต้น หรือเมื่อบริษัทฯ มีการเปลี่ยนแปลงวัตถุประสงค์เดิมที่กำหนดไว้
ทั้งนี้ หากเป็นกรณีที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนดให้การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลใดต้องได้รับความยินยอมจากท่าน บริษัทฯ จะขอความยินยอมโดยชัดแจ้งจากท่าน

 

5.2 เนื่องจากข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่บริษัทฯ จะดำเนินการประมวลผลเพื่อวัตถุประสงค์ที่กำหนดตามข้อ 5.1     ข้างต้นในส่วนที่มีความเกี่ยวเนื่องกับการปฏิบัติตามกฎหมายหรือสัญญาหรือมีความจำเป็นเพื่อเข้าทำสัญญากับท่าน เป็นข้อมูล    ที่จำเป็นต่อการบรรลุวัตถุประสงค์ดังกล่าว หากท่านไม่ประสงค์ที่จะให้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวแก่บริษัทฯ อาจมีผลกระทบ   ทางกฎหมาย หรืออาจทำให้บริษัทฯ ไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ภายใต้สัญญาที่ได้เข้าทำกับท่าน หรือไม่สามารถเข้าทำสัญญากับ  ท่านได้ (แล้วแต่กรณี) ในกรณีดังกล่าว บริษัทฯ อาจมีความจำเป็นต้องปฏิเสธการเข้าทำสัญญากับท่าน หรือยกเลิกการซื้อขาย   หรือการให้บริการที่เกี่ยวข้องกับท่าน ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน

5.3 ในกรณีที่บริษัทฯ จะดำเนินการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในลักษณะ และ/หรือเพื่อวัตถุประสงค์ที่        ไม่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ข้างต้น บริษัทฯ จะจัดให้มีนโยบายหรือประกาศเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเพิ่มเติม และ/หรือมีหนังสือไปยังท่านเพื่ออธิบายการประมวลผลข้อมูลในลักษณะดังกล่าว โดยท่านควรอ่านนโยบายหรือ ประกาศเพิ่มเติมที่เกี่ยวข้องร่วมกับประกาศฯ ฉบับนี้ และ/หรือหนังสือดังกล่าว (แล้วแต่กรณี)

 

  1. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

6.1 บริษัทฯ อาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ภายใต้วัตถุประสงค์ที่กำหนดและตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด ให้แก่บุคคลและหน่วยงานดังต่อไปนี้

6.2 การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้กับบุคคลอื่น จะดำเนินการภายใต้วัตถุประสงค์ที่กำหนด หรือวัตถุประสงค์อื่นที่กฎหมายกำหนดให้กระทำได้เท่านั้น ในกรณีที่กฎหมายกำหนดว่าต้องได้รับความยินยอมจากท่าน บริษัทฯ จะขอความยินยอมจากท่านก่อน

6.3 ในการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้กับบุคคลอื่น บริษัทฯ จะจัดให้มีมาตรการที่เหมาะสมเพื่อคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้เปิดเผยและเพื่อปฏิบัติตามมาตรฐานและหน้าที่การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด ทั้งนี้ ในกรณีที่บริษัทฯ ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปต่างประเทศ บริษัทฯ จะดำเนินการเพื่อทำให้แน่ใจว่าประเทศปลายทาง องค์การระหว่างประเทศ หรือผู้รับข้อมูลในต่างประเทศนั้นมีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เพียงพอหรือเพื่อทำให้แน่ใจว่าการส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปต่างประเทศเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด โดยในบางกรณี บริษัทฯ อาจขอความยินยอมของท่านสำหรับการส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังต่างประเทศดังกล่าว

 

  1. ระยะเวลาเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทฯ จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามระยะเวลาที่จำเป็นเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ที่กำหนดในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลนั้น ๆ โดยระยะเวลาเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลจะเปลี่ยนแปลงไปโดยขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ที่กำหนดในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลนั้น ๆ นอกจากนี้ บริษัทฯ จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลเป็นระยะเวลาตามที่กฎหมายที่เกี่ยวข้องกำหนด (ถ้ามี) โดยคำนึงถึงอายุความตามกฎหมายสำหรับการดำเนินคดีที่อาจเกิดขึ้นจากหรือเกี่ยวข้องกับเอกสารหรือข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ เก็บรวบรวมไว้ในแต่ละรายการ และโดยคำนึงถึงแนวปฏิบัติของบริษัทฯ และของภาคธุรกิจที่เกี่ยวข้องสำหรับข้อมูลส่วนบุคคลแต่ละประเภทเป็นสำคัญ

หลังจากครบกำหนดระยะเวลาดังกล่าวข้างต้น บริษัทฯ จะลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว จากการจัดเก็บหรือระบบของบริษัทฯ และของบุคคลอื่นซึ่งให้บริการแก่บริษัทฯ (ถ้ามี) หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวท่านได้ เว้นแต่จะเป็นกรณีที่บริษัทฯ สามารถเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวได้ต่อไปตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลหรือกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องกำหนด ทั้งนี้ สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับระยะเวลาเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ท่านสามารถติดต่อมายังบริษัทฯ ตามรายละเอียดการติดต่อที่ระบุไว้ในข้อ 9 ของประกาศฯ ฉบับนี้

 

  1. สิทธิต่าง ๆ ของท่านเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล

ในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านดังต่อไปนี้ ภายใต้หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งนี้ หากท่านประสงค์ที่จะขอใช้สิทธิของท่าน ท่านสามารถติดต่อมายังบริษัทฯ ตามรายละเอียดการติดต่อในข้อ 9 ของประกาศฯ ฉบับนี้

8.1 สิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านและขอให้บริษัทฯ ทำสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวให้แก่ท่าน ทั้งนี้ ตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด

8.2 สิทธิในการโอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิที่จะขอรับข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับท่าน รวมถึงมีสิทธิขอให้ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลรายอื่น หรือตัวท่านเอง เว้นแต่โดยสภาพไม่สามารถทำได้ ทั้งนี้ ตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด

8.3 สิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิขอคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ในกรณีที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด

8.4 สิทธิในการลบข้อมูลส่วนบุคคล ท่านอาจขอให้บริษัทฯ ลบ ทำลายหรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้ในกรณีที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด

8.5 สิทธิในการระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทฯ ระงับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในกรณีที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด

8.6 สิทธิในการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง ท่านมีสิทธิขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ถูกต้อง หากข้อมูลส่วนบุคคลของท่านนั้นไม่ถูกต้อง ไม่เป็นปัจจุบัน ไม่ครบถ้วนสมบูรณ์ หรือก่อให้เกิดความเข้าใจผิด

8.7 สิทธิที่จะเพิกถอนความยินยอม ในกรณีที่บริษัทฯ อาศัยความยินยอมของท่านในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลฯ ของท่าน ท่านมีสิทธิในการเพิกถอนความยินยอมในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ความยินยอมกับบริษัทฯ ได้

8.8 สิทธิในการยื่นข้อร้องเรียน หากท่านมีความกังวลหรือมีข้อสงสัยเกี่ยวกับแนวทางการปฏิบัติของบริษัทฯ เกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน โปรดติดต่อบริษัทฯ โดยใช้รายละเอียดการติดต่อตามข้อ 9 ของประกาศฯ ฉบับนี้ ทั้งนี้ ในกรณีที่มีเหตุให้เชื่อได้ว่าบริษัทฯ ได้ทำการฝ่าฝืนกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิยื่นข้อร้องเรียนต่อคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญที่ได้รับการแต่งตั้งโดยคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลตามระเบียบและวิธีการตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด

 

  1. วิธีการติดต่อบริษัทฯ

บริษัทฯ ได้มอบหมายให้ บริษัท ยูนิฟาย เคมิคอล จำกัด เป็นผู้ประสานงานเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทฯ ในกรณีที่ท่านมีข้อสงสัยใด ๆ หรือต้องการใช้สิทธิของท่านตามที่กำหนดไว้ในประกาศฯ นี้ ท่านสามารถติดต่อบริษัทฯ ผ่านช่องทาง ดังนี้

เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Data Protection Officer)

อีเมล:                    dpo@unifychemical.com

สถานที่ติดต่อ:    บริษัท ยูนิฟาย เคมิคอล จำกัด

72/66-67 หมู่ 3 ตำบลบางตลาด อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี 11120 ประเทศไทย

โทรศัพท์ : 02-962-6440-1

  1. การเปลี่ยนแปลงประกาศฯ ฉบับนี้

บริษัทฯ อาจทำการเปลี่ยนแปลงประกาศฯ ฉบับนี้เป็นครั้งคราว เพื่อให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ที่เกี่ยวกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน และตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลหรือกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องกำหนด โดยบริษัทฯ จะแจ้งให้ท่านทราบถึงการแก้ไขเปลี่ยนแปลงประกาศฯ ที่สำคัญใด ๆ พร้อมกับ ประกาศฯ ฉบับปรับปรุง ผ่านช่องทางที่เหมาะสม ทั้งนี้ บริษัทฯ ขอแนะนำให้ท่านตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงประกาศฯ ฉบับนี้เป็นระยะ ๆ

 

ให้ประกาศฯ ฉบับนี้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่  1 มิถุนายน พ.ศ. 2565

ประกาศเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Notice)

สำหรับกระบวนการที่เกี่ยวข้องกับบุคลากร

ของบริษัท ยูนิฟาย เคมิคอล จำกัด

  1. บททั่วไป

เพื่อเป็นการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 และกฎหมายลำดับรองที่เกี่ยวข้อง และให้หมายความรวมถึงกฎหมายฉบับแก้ไขเพิ่มเติมใด ๆ ในอนาคต (“กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล”) บริษัท ยูนิฟาย เคมิคอล จำกัด (“บริษัทฯ”) จึงจัดทำประกาศเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Notice) สำหรับกระบวนการที่เกี่ยวข้องกับบุคลากรของบริษัท ยูนิฟาย เคมิคอล จำกัด (“ประกาศฯ”) ฉบับนี้ขึ้น เพื่ออธิบายให้ท่านทราบถึงวิธีการที่บริษัทฯ ปฏิบัติต่อข้อมูลที่สามารถระบุตัวตนของท่าน หรืออาจจะระบุตัวตนของท่านได้ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม ตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (“ข้อมูลส่วนบุคคล”) เช่น วิธีการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย หรือ การดำเนินการใด ๆ กับข้อมูลส่วนบุคคลไม่ว่าด้วยวิธีการอัตโนมัติหรือไม่ก็ตาม อาทิ การบันทึก การจัดระบบ การจัดเก็บ การปรับเปลี่ยนหรือการดัดแปลง การเรียกคืน การส่ง โอน การเผยแพร่หรือการทำให้สามารถเข้าถึงหรือพร้อมใช้งานโดยวิธีใด ๆ การจัดเรียง การนำมารวมกัน การจำกัดหรือการห้ามเข้าถึง การลบ หรือการทำลาย (“ประมวลผล”) และเพื่อแจ้งให้ท่านทราบถึงวัตถุประสงค์ในการประมวลผล ระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล ตลอดจนสิทธิของท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งนี้ บริษัทฯ ขอแนะนำให้ท่านอ่านและทำความเข้าใจถึงข้อกำหนดต่าง ๆ ภายใต้ประกาศฯ โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

 

  1. กลุ่มหรือประเภทของบุคคลที่บริษัทฯ ทำการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล

ภายใต้ประกาศฯ ฉบับนี้ กลุ่มหรือประเภทของบุคคลที่บริษัทฯ ทำการเก็บรวบรวมและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลประกอบด้วย

2.1 ผู้สมัครงาน ซึ่งหมายถึง บุคคลที่อาจได้รับคัดเลือกเป็นบุคลากรของบริษัทฯ โดยบริษัทฯ อาจเป็นผู้เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของผู้สมัครงานเองโดยตรง หรือได้รับจากบุคคลภายนอกก็ได้

2.2 บุคลากร ซึ่งหมายถึง บุคคลซึ่งทำงานหรือปฏิบัติหน้าที่ใด ๆ ให้กับบริษัทฯ และได้ค่าจ้าง สวัสดิการ หรือค่าตอบแทนอื่นไม่ว่าจะเรียกชื่ออย่างไรจากบริษัทฯ เพื่อตอบแทนการทำงาน เช่น กรรมการ ผู้บริหาร ผู้จัดการ พนักงาน บุคลากร ผู้ฝึกงาน หรือบุคคลอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน แต่ไม่รวมถึงผู้รับจ้างหรือผู้ให้บริการซึ่งเป็นคู่ค้าของบริษัทฯ และ

2.3 ผู้ที่เกี่ยวข้องกับผู้สมัครงานและบุคลากร ซึ่งหมายถึง บุคคลที่เกี่ยวข้องกับผู้สมัครงานและบุคลากรของบริษัทฯ และให้หมายความรวมถึงผู้ที่ข้อมูลส่วนบุคคลปรากฏในเอกสารต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการที่เกี่ยวข้อง เช่น บุคคลในครอบครัว (เช่น บิดา มารดา คู่สมรส และบุตร เป็นต้น) บุคคลที่สามารถติดต่อได้ในกรณีฉุกเฉิน บุคคลอ้างอิง (Reference Person) ผู้รับผลประโยชน์ และผู้ค้ำประกันการทำงาน เป็นต้น

 

  1. วิธีที่บริษัทฯ เก็บรวบรวมและรับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

3.1 บริษัทฯ เก็บรวบรวมและรับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านผ่านช่องทางต่าง ๆ ดังนี้

  • (ก) ข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านให้ไว้กับบริษัทฯ โดยตรง
    ท่านอาจให้ข้อมูลส่วนบุคคลแก่บริษัทฯ โดยตรง เช่น เมื่อท่านยื่นใบสมัครงานและเอกสารประกอบการสมัครงานให้แก่บริษัทฯ ไม่ว่าโดยการ walk-in การสมัครที่บูธสมัครงาน เช่น การสมัครงานผ่านเว็บไซต์ของบริษัทฯ และให้หมายความรวมถึงกรณีที่ท่านเข้าสัมภาษณ์งาน เข้าทำสัญญากับบริษัทฯ และส่งมอบเอกสารต่าง ๆ ซึ่งมีข้อมูลส่วนบุคคลของท่านปรากฏอยู่มาให้กับบริษัทฯ เป็นต้น
  • (ข) ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ เก็บรวบรวมจากท่านโดยอัตโนมัติ
    บริษัทฯ อาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยอัตโนมัติผ่านช่องทางต่าง ๆ เช่น การใช้คุกกี้ (Cookies) หรือเทคโนโลยีอื่น ๆ ที่คล้ายคลึงกัน รายละเอียดเพิ่มเติมโปรดดู
  • (ค) ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ ได้รับมาจากบุคคลภายนอก
    บริษัทฯ อาจได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านมาจากบุคคลภายนอก เช่น เว็บไซต์สมัครงานของบุคคลที่สาม บุคคลอ้างอิงของท่าน บริษัทจัดหางาน หน่วยงานของรัฐ สถานศึกษา แหล่งข้อมูล Social Media หรือใบสมัครงานและ/หรือเอกสารของบุคคลซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับท่าน ในฐานะที่ท่านเป็นบุคคลในครอบครัว บุคคลที่สามารถติดต่อได้ในกรณีฉุกเฉิน บุคคลอ้างอิง ผู้รับผลประโยชน์ หรือผู้ค้ำประกันการทำงานของบุคคลดังกล่าว เป็นต้น

3.2 ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ท่านจะได้รับการแจ้งถึงรายละเอียดต่าง ๆ ตามที่ระบุในประกาศฯ ฉบับนี้ ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะ วัตถุประสงค์และฐานทางกฎหมายในการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล หรือหากเป็นกรณีที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนดให้การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลใดต้องได้รับความยินยอมจากท่าน บริษัทฯ จะขอความยินยอมโดยชัดแจ้งจากท่าน

3.3 ในกรณีที่บริษัทฯ เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ก่อนวันที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลมีผลใช้บังคับบริษัทฯ จะเก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อไปตามวัตถุประสงค์เดิมที่บริษัทฯ ได้แจ้งไว้แก่ท่านในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งท่านมีสิทธิยกเลิกความยินยอม โดยติดต่อมายังบริษัทฯ ตามรายละเอียดการติดต่อที่ระบุไว้ในข้อ 9 ของประกาศฯ ฉบับนี้ ทั้งนี้ บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิในการพิจารณาคำขอยกเลิกความยินยอมของท่านและดำเนินการตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด

 

  1. ข้อมูลส่วนบุคคลที่ถูกเก็บรวบรวม

ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ถูกเก็บรวบรวมและประมวลผลภายใต้ประกาศฯ ฉบับนี้ ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านให้ไว้กับบริษัทฯ โดยตรง หรือข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ เก็บรวบรวมจากท่านโดยอัตโนมัติ หรือข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ ได้รับมาจากบุคคลภายนอก ได้แก่

4.1 ข้อมูลส่วนตัว เช่น ชื่อ นามสกุล วัน/เดือน/ปีเกิด อายุ เพศ น้ำหนัก ส่วนสูง หมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน รูปถ่าย ลายมือชื่อ สัญชาติ เชื้อชาติ ศาสนา สถานภาพสมรส สถานภาพทางทหาร ข้อมูลบุคคลในครอบครัว (เช่น บิดา มารดา คู่สมรส และบุตร เป็นต้น) ข้อมูลสุขภาพ และข้อมูลชีวภาพ (เช่น ลายนิ้วมือ ลายฝ่ามือ ข้อมูลจำลองม่านตา และภาพจำลองใบหน้า เป็นต้น) เป็นต้น

4.2 ข้อมูลการติดต่อ เช่น ที่อยู่อาศัย หมายเลขโทรศัพท์ โทรสาร อีเมล ไอดีผู้ใช้สำหรับไลน์แอปพลิเคชัน (Line ID) ข้อมูลผู้ที่สามารถติดต่อได้ในกรณีฉุกเฉิน และข้อมูลบุคคลอ้างอิง เป็นต้น

4.3 ข้อมูลเกี่ยวกับการศึกษา การฝึกอบรม เช่น ประวัติการศึกษาและการฝึกอบรม (เช่น ชื่อสถาบัน คณะ สาขาวิชา และปีที่จบ เป็นต้น) หนังสือรับรองคุณวุฒิ ใบแสดงผลการศึกษา ความสามารถทางภาษา ความสามารถด้านคอมพิวเตอร์ ข้อมูลการอบรมและข้อมูลการทดสอบ และกิจกรรมที่เข้าร่วมระหว่างการศึกษา เป็นต้น

4.4 ข้อมูลเกี่ยวกับการสมัครงาน เช่น ประวัติส่วนตัว ประวัติการทำงาน ข้อมูลที่ปรากฏใน Resume/CV ข้อมูลประวัติอาชญากรรม ตำแหน่งที่สมัคร เงินเดือนที่คาดหวัง ข้อมูลการสัมภาษณ์งาน หลักฐานหรือหนังสืออ้างอิงต่าง ๆ และข้อมูลที่ปรากฏในแบบประเมินผลการสัมภาษณ์ (เช่น ผลการประเมิน ความรู้และประสบการณ์ คุณลักษณะส่วนบุคคล การทำงานกับผู้อื่น และศักยภาพ) เป็นต้น

4.5 ข้อมูลที่ใช้ประกอบเป็นหลักฐานในการสมัครงานหรือทำนิติกรรมต่าง ๆ เช่น ข้อมูลส่วนบุคคลที่ปรากฏในสำเนาบัตรประชาชน สำเนาหนังสือเดินทาง สำเนาใบเปลี่ยนชื่อนามสกุล สำเนาทะเบียนบ้าน สำเนาใบสำคัญการเกณฑ์ทหาร สำเนาสมุดบัญชีธนาคาร สำเนาทะเบียนสมรส สำเนาสูติบัตร แบบแจ้งขออนุมัติเงินเดือนพนักงานใหม่และบรรจุเป็นรายเดือน ใบรับรองแพทย์ ผลการตรวจร่างกายก่อนเข้าทำงาน แบบระบุนามผู้รับผลประโยชน์ แบบขึ้นทะเบียนผู้ประกันตน หนังสือยินยอมให้สอบประวัติบุคคล รายงานผลการตรวจสอบประวัติบุคคล สัญญาจ้างงาน หนังสือค้ำประกันการทำงานและเอกสารที่เกี่ยวข้อง (เช่น หนังสือรับรองตำแหน่ง สำเนาบัตรข้าราชการ หนังสือรับรองเงินเดือน สำเนาทะเบียนการค้า หรือเอกสารจัดตั้งบริษัทที่มีชื่อผู้ค้ำประกันการทำงานเป็นเจ้าของหรือเป็นหุ้นส่วน เป็นต้น) ข้อตกลงการว่าจ้างกรรมการ (Directorship Agreement) และหนังสือมอบอำนาจ เป็นต้น

4.6 ข้อมูลเกี่ยวกับการทำงานและการประเมินผล เช่น รหัสบุคลากร ตำแหน่ง แผนก สังกัด สายการบังคับบัญชา การประเมินผลการปฏิบัติงาน พฤติกรรมในการทำงาน ผลงานและ/หรือรางวัลที่เคยได้รับ ข้อมูลการฝึกอบรม ข้อมูลการลงโทษทางวินัย ข้อมูลที่ปรากฏในหนังสือโอนย้ายบุคลากรข้ามบริษัท สัญญายืมตัวบุคลากร ใบลาออกจากการเป็นบุคลากร และเหตุผลที่ลาออก เป็นต้น

4.7 ข้อมูลเกี่ยวกับผลประโยชน์และค่าตอบแทน เช่น เงินเดือน ค่าจ้าง ผลตอบแทน โบนัส รายละเอียดเกี่ยวกับค่าบำเหน็จ สวัสดิการ เลขบัญชีธนาคาร ข้อมูลของผู้ค้ำประกันการทำงาน ข้อมูลของผู้รับผลประโยชน์ ข้อมูลเกี่ยวกับการประกันสังคม ข้อมูลเกี่ยวกับกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ข้อมูลด้านภาษีอากร ข้อมูลการหักลดหย่อนภาษี ข้อมูลสิทธิประโยชน์เกี่ยวกับสุขภาพ (รวมถึงสำหรับบุคคลในครอบครัว) และ/หรือผลประโยชน์อื่น ๆ ข้อมูลส่วนบุคคลที่ปรากฏในใบรับรองแพทย์ รายงานสุขภาพประจำปี แบบแจ้งการลาคลอด แบบเบิกเงินยืมสวัสดิการ หนังสือยินยอมให้หักเงินเดือน ใบเสร็จรับเงิน ใบแจ้งหนี้ แบบการเรียกค่าสินไหมทดแทน (สำหรับการประกันอุบัติเหตุ และประกันชีวิต) และแบบขออนุมัติผลประโยชน์เมื่อพ้นสภาพบุคลากรสำหรับการเกษียณอายุ เป็นต้น

4.8 ข้อมูลเกี่ยวกับสถิติทางทะเบียน เช่น วันที่เริ่มงาน วันครบกำหนดทดลองงาน วันและเวลาที่เข้าทำงาน จำนวนชั่วโมงที่ทำงาน จำนวนชั่วโมงที่ทำงานล่วงเวลา วันหยุดพักผ่อนประจำปี วันลา แบบแจ้งการลา รายละเอียดการลารวมถึงสาเหตุการลา บันทึกการเข้าออกบริษัทฯ และการบันทึกการใช้ระบบต่าง ๆ ของบริษัทฯ เป็นต้น

4.9 ข้อมูลด้านเทคนิค เช่น ข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ (Log) หมายเลขประจำเครื่องคอมพิวเตอร์ (IP Address) และข้อมูลที่บริษัทฯ ได้เก็บรวบรวมผ่านคุกกี้ (Cookies) หรือเทคโนโลยีอื่นที่คล้ายคลึงกัน เป็นต้น

4.10 ข้อมูลอื่น ๆ เช่น บันทึกเสียงการสนทนา และบันทึกภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหวผ่านกล้องวงจรปิด (CCTV) ข้อมูลอื่นใดที่ท่านส่งถึงเราในการเชื่อมต่อกับเว็บไซต์ เช่น ความคิดเห็น และตำแหน่งที่อยู่ของท่าน เป็นต้น

 

 

  1. วัตถุประสงค์และฐานทางกฎหมายในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล

5.1 บริษัทฯ ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อวัตถุประสงค์ต่าง ๆ ภายใต้ฐานทางกฎหมายดังต่อไปนี้ (รวมกันเรียกว่า “วัตถุประสงค์ที่กำหนด”)

 

ลำดับ วัตถุประสงค์ที่กำหนด ฐานทางกฎหมายในการประมวลผล
(ก) เพื่อวัตถุประสงค์ในการรับสมัครงาน คัดเลือกผู้สมัครงาน การสัมภาษณ์ และการดำเนินการใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการสมัครงาน
  • ฐานสัญญา: การประมวลผลส่วนบุคคลของผู้สมัครงาน เป็นการจำเป็นเพื่อใช้ในการพิจารณาคำขอของผู้สมัครงาน ที่ได้แสดงเจตนาสมัครงานเพื่อเข้าสู่กระบวนการคัดเลือกบุคลากรของบริษัทฯ
  • ฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย: การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของผู้สมัครงานหรือผู้ที่เกี่ยวข้องกับผู้สมัครงาน เป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทฯ ในการรับสมัครงานหรือในการดำเนินการภายหลังการรับสมัครงาน เช่น การพิจารณาคัดเลือกผู้สมัครงาน และการตรวจสอบคุณสมบัติของผู้สมัครงาน เป็นต้น
  • ฐานความยินยอม: ในกรณีที่บริษัทฯ ทำการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ที่คาดว่าจะเป็นบุคลากร โดยการตัดสินใจของบริษัทฯ เอง (Own Initiative) จากแหล่งอื่น เช่น เว็บไซต์ Recruiter โดยที่ผู้ที่คาดว่าจะเป็นบุคลากรยังไม่ได้แสดงเจตนาว่าประสงค์ที่จะสมัครงาน (Open to Job opportunities) กับบริษัทฯ

·        ฐานความยินยอม: การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ในฐานะบุคคลในครอบครัวหรือบุคคลอ้างอิง (Reference Person) ของผู้สมัครงานจะดำเนินการโดยอาศัยความยินยอมที่ได้รับจากท่าน

(ข) เพื่อวัตถุประสงค์ในการอนุมัติเงินเดือนและผลประโยชน์สำหรับบุคลากรของบริษัทฯ
  • ฐานสัญญา: การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของผู้สมัครงาน เป็นการจำเป็นเพื่อใช้ในการพิจารณาคำขอของผู้สมัครงาน ที่ผ่านขั้นตอนการสัมภาษณ์งานและเข้าสู่กระบวนการอนุมัติเงินเดือนและผลประโยชน์สำหรับบุคลากรก่อนเข้าทำสัญญาจ้าง หรือสัญญาอื่นใด เพื่อบรรจุเข้าเป็นบุคลากรของบริษัทฯ

·        ฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย: การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของผู้สมัครงาน เป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทฯ เนื่องจากข้อมูลส่วนบุคคลที่ประมวลผลมีความจำเป็นต่อการพิจารณาอนุมัติเงินเดือนและผลประโยชน์สำหรับบุคลากรของบริษัทฯ

(ค) เพื่อวัตถุประสงค์ในการดำเนินการอื่นใดที่เกี่ยวข้องกับจ้างงาน และการบรรจุบุคลากรเข้าทำงาน อาทิ การตรวจร่างกายก่อนเข้าทำงาน การระบุนามผู้รับผลประโยชน์ การขึ้นทะเบียนผู้ประกันตน การตรวจสอบประวัติอาชญากรรม การเข้าทำสัญญาจ้าง และการเข้าทำสัญญาผู้ค้ำประกันการทำงาน เป็นต้น
  • ฐานสัญญา: การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของบุคลากร เป็นการจำเป็นเพื่อดำเนินการเข้าทำสัญญาจ้าง และสัญญาอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนการดำเนินการใด ๆ ที่จำเป็นก่อนการเข้าทำสัญญาดังกล่าว ในกรณีของผู้ค้ำประกันการทำงาน การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ค้ำประกันการทำงาน เป็นการจำเป็นเพื่อดำเนินการเข้าทำสัญญาค้ำประกันการทำงานซึ่งผู้ค้ำประกันการทำงานเป็นคู่สัญญา
  • ฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย: การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของบุคลากร และผู้ที่เกี่ยวข้องกับบุคลากร เป็นการจำเป็นในการบริหารจัดการด้านทรัพยากรบุคคลของบริษัทฯ เช่น การตรวจสอบและพิจารณาคุณสมบัติของบุคลากร เพื่อบรรจุบุคลากรเข้าทำงานในตำแหน่งที่เหมาะสม เป็นต้น
  • ฐานกฎหมาย: ในกรณีของกรรมการและผู้บริหารของบริษัทฯ การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของกรรมการและผู้บริหารของบริษัทฯ เป็นการจำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 เช่น การจัดทำแบบฟอร์ม และเอกสารต่าง ๆ เพื่อยื่นต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

ฐานความยินยอม: การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวของบุคลากร อาทิ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ และข้อมูลชีวภาพ จะกระทำโดยอาศัยความยินยอมที่ได้รับจากบุคลากร

(ง) เพื่อวัตถุประสงค์ในการบริหารจัดการสวัสดิการและผลประโยชน์บุคลากร ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะ เงินยืมสวัสดิการการเบิกค่ารักษาพยาบาล สวัสดิการส่วนลดสำหรับบุคลากร การตรวจร่างกายประจำปี การประกันภัย และการเรียกค่าสินไหมทดแทนที่เกี่ยวข้องกับการประกันภัย
  • ฐานสัญญา: การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของบุคลากร เป็นการจำเป็นสำหรับบริษัทฯ ในการปฏิบัติตามสัญญาจ้าง และสัญญาอื่น ๆ ซึ่งบุคลากรเป็นคู่สัญญา
  • ฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย: การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของบุคลากร และผู้ที่เกี่ยวข้องกับบุคลากร เป็นการจำเป็นต่อการบริหารจัดการด้านทรัพยากรบุคคลของบริษัทฯ เช่น การจัดสรรสวัสดิการและผลประโยชน์ของบุคลากร และผู้ที่เกี่ยวข้องกับบุคลากร
  • ฐานการปฏิบัติตามกฎหมายเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการคุ้มครองแรงงาน และการประกันสังคม: การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของบุคลากร เป็นการจำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามกฎหมายเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการคุ้มครองแรงงาน และการประกันสังคม สวัสดิการเกี่ยวกับการรักษาพยาบาลของผู้มีสิทธิตามกฎหมาย การคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ หรือการคุ้มครองทางสังคม

·         ฐานความยินยอม: การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวของบุคลากร และผู้ที่เกี่ยวข้องกับบุคลากร อาทิ ข้อมูลสุขภาพ เพื่อการบริหารจัดการการประกันภัยแบบกลุ่มหรือสวัสดิการอื่น ๆ จะกระทำโดยอาศัยความยินยอมที่ได้รับจากบุคลากรและผู้ที่เกี่ยวข้องกับบุคลากร

(จ) เพื่อวัตถุประสงค์ในการปฏิบัติหน้าที่ของบุคลากรตามสัญญาจ้าง ข้อตกลงการว่าจ้าง สัญญาแต่งตั้ง หรือสัญญาอื่นใด ซึ่งเข้าทำกับบริษัทฯ
  • ฐานสัญญา: การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของบุคลากรที่เกี่ยวข้อง เป็นการจำเป็นเพื่อการปฏิบัติหน้าที่หรือทำงานตามขอบเขตที่ระบุในสัญญาจ้าง ข้อตกลงการว่าจ้าง สัญญาแต่งตั้ง หรือสัญญาอื่นใด ซึ่งบุคลากรได้เข้าทำกับบริษัทฯ เช่น การใช้และเปิดเผย ชื่อ นามสกุล และข้อมูลส่วนบุคคลที่ปรากฏในบัตรประจำตัวประชนของบุคลากร เพื่อยืนยันตัวตนในฐานะผู้มีอำนาจกระทำการแทนบริษัทฯ ในการลงนามในสัญญา เอกสาร หรือการทำนิติกรรมใด ๆ ในนามของบริษัทฯ ตลอดจนการใช้และเปิดเผยชื่อของบุคลากรในประกาศ ใบอนุมัติ แบบฟอร์ม หรือเอกสารอื่น ๆ ของบริษัทฯ ตามขอบอำนาจหน้าที่ หรือส่วนงานที่บุคลากรดังกล่าวเป็นผู้รับผิดชอบ เป็นต้น

ฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย: การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของบุคลากร เป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายในการดำเนินธุรกิจ และการปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวของบริษัทฯ

(ฉ) เพื่อวัตถุประสงค์ในการบันทึกเวลาการทำงาน จ่ายเงินเดือน ค่าจ้าง โบนัส ค่าตอบแทน หรือสิทธิประโยชน์ใด ๆ
  • ฐานสัญญา: การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของบุคลากร เป็นการจำเป็นสำหรับการจ่ายค่าจ้าง เงินเดือน โบนัส ค่าตอบแทนและ/หรือสิทธิประโยชน์ใด ๆ ตามสัญญาจ้าง และสัญญาอื่น ๆ ซึ่งบุคลากรเป็นคู่สัญญา
  • ฐานกฎหมาย: ในบางกรณี การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของบุคลากร และผู้ที่เกี่ยวข้องกับบุคลากร เป็นการปฏิบัติตามกฎหมายของบริษัทฯ เช่น การหักภาษี ณ ที่จ่าย ตามกฎหมายว่าด้วยภาษีอากร เป็นต้น

ฐานความยินยอม: การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวของบุคลากร อาทิ ข้อมูลชีวภาพ จะกระทำโดยอาศัยความยินยอมที่ได้รับจากบุคลากร

(ช) เพื่อวัตถุประสงค์ในการปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการทรัพยากรบุคคล และคำสั่งโดยชอบด้วยกฎหมายของหน่วยงานของรัฐและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ·        ฐานกฎหมาย: การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของบุคลากร และผู้ที่เกี่ยวข้องกับบุคลากร เป็นการปฏิบัติตามกฎหมายของบริษัทฯ ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะ กฎหมายแรงงาน กฎหมายว่าด้วยการประกันสังคม กฎหมายภาษีอากร กฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เช่น การยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลประจำปี (แบบ 56-1) ต่อคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ การส่งข้อมูลส่วนบุคคลของบุคลากรให้แก่หน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมสรรพากร สำนักงานประกันสังคม และกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ และกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน เป็นต้น
(ซ) เพื่อวัตถุประสงค์ในการประเมินผลการปฏิบัติงาน หรือหน้าที่ของบุคลากร ·         ฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย: การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของบุคลากร เป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายในการประเมินผลการปฏิบัติงานของบุคลากรเพื่อการบริหารจัดการด้านทรัพยากรบุคคล หรือเพื่อประโยชน์อื่นใดในการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ
(ฌ) เพื่อวัตถุประสงค์ในการบริหารจัดการการฝึกอบรมบุคลากร ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะ การรวบรวมรายชื่อผู้ที่มีความประสงค์จะเข้าฝึกอบรม และดำเนินการบริหารจัดการทางทะเบียนและสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ·         ฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย: การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของบุคลากร เป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทฯ ในการบริการจัดการการจัดฝึกอบรม เช่น การลงทะเบียนหลักสูตรอบรม การจัดให้มีแผนการดำเนินการและแบบฝึกอบรม ตลอดจนการจัดสรรสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ที่เหมาะสม สำหรับการจัดฝึกอบรม เป็นต้น
(ญ) เพื่อวัตถุประสงค์ในการโอนย้ายบุคลากร และการยืมตัวบุคลากร
  • ฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย: การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของบุคลากร เป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายในการบริหารจัดการด้านทรัพยากรบุคคลของบริษัทฯ เช่น การโอนย้าย หรือยืมตัวบุคลากร เป็นต้น
  • ฐานสัญญา: การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของบุคลากร เป็นการจำเป็นเพื่อปฏิบัติตามสัญญาจ้าง สัญญาโอนย้ายพนักงานซึ่งมีบุคลากรเป็นคู่สัญญา หรือสัญญาอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน

·         ในกรณีที่บริษัทฯ ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของบุคลากร ไปต่างประเทศ บริษัทฯ จะดำเนินการเพื่อทำให้แน่ใจว่าประเทศปลายทาง หรือผู้รับข้อมูลส่วนบุคคลในต่างประเทศนั้นมีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เพียงพอ ในบางกรณี บริษัทฯ อาจขอความยินยอมของบุคลากร สำหรับการส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของบุคลากรไปยังต่างประเทศ ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด

(ฎ) เพื่อวัตถุประสงค์ในการบริหารจัดการทรัพยากรบุคคลในเรื่องอื่น ๆ อาทิ การลงโทษทางวินัย การเลิกจ้าง การลาออก และการเกษียณ เป็นต้น

·         ฐานสัญญา: การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของบุคลากร เป็นการจำเป็นเพื่อใช้ในการปฏิบัติหน้าที่ตามสัญญาจ้าง และสัญญาอื่น ๆ ซึ่งบุคลากรเป็นคู่สัญญา อาทิ การเลิกจ้าง ในกรณีที่บุคลากรลาออกหรือเกษียณจากการทำงาน และการบันทึกประวัติการถูกลงโทษทางวินัยของบุคลากรที่ฝ่าฝืนระเบียบหรือข้อบังคับการทำงาน เป็นต้น

·        ฐานกฎหมาย: การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของบุคลากร เป็นการปฏิบัติตามกฎหมายของบริษัทฯ เช่น การดำเนินการตามกระบวนการเลิกจ้าง การลาออกหรือการเกษียณของบุคลากร ตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองแรงงาน และกฎหมายว่าด้วยกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ เป็นต้น

·        ฐานการปฏิบัติตามกฎหมายเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการคุ้มครองแรงงาน: การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของบุคลากร เป็นการจำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามกฎหมายของบริษัทฯ เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการคุ้มครองแรงงานเช่น การลงโทษทางวินัย และการเลิกจ้าง เป็นต้น

·        ฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย: การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของบุคลากร เป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายในการจัดการด้านทรัพยากรบุคคลของบริษัทฯ เช่น การลงโทษทางวินัยและบันทึกประวัติการถูกลงโทษทางวินัยของบุคลากร และการพ้นสภาพจากการเป็นบุคลากรของบริษัทฯ เป็นต้น

(ฏ) เพื่อวัตถุประสงค์ในการติดต่อสื่อสารกับผู้สมัครงาน บุคลากร และ ผู้ที่เกี่ยวข้องกับบุคลากร ·        ฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย: การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทฯ ในการติดต่อสื่อสารกับผู้สมัครงาน บุคลากร และ ผู้ที่เกี่ยวข้องกับบุคลากร
(ฐ) เพื่อวัตถุประสงค์ในการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้ซึ่งสิทธิเรียกร้องของบริษัทฯ ในขั้นตอนต่าง ๆ ตามกฎหมาย ·        ฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย: การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเป็นการจำเป็นเพื่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้ซึ่งสิทธิเรียกร้องของบริษัทฯ ในขั้นตอนต่าง ๆ ตามกฎหมาย เช่น การสอบสวนและ/หรือการไต่สวนโดยเจ้าหน้าที่รัฐ การเตรียมคดี การดำเนินคดี และ/หรือการต่อสู้คดีในชั้นศาล เป็นต้น
(ฑ) เพื่อวัตถุประสงค์ในการตรวจสอบดูแลความสงบเรียบร้อยและรักษาความปลอดภัยของบุคคล และทรัพย์สินของบริษัทฯ
  • ฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย: การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายในการตรวจสอบดูแลความสงบเรียบร้อยและรักษาความปลอดภัยในทรัพย์สินของบริษัทฯ เช่น การใช้ภาพบันทึกจากกล้องวงจรปิด (CCTV) เพื่อป้องกันการสูญหาย หรือเสียหายในทรัพย์สินของบริษัทฯ หรือใช้เพื่อติดตามเอาคืนทรัพย์สิน หรือเรียกให้ชดใช้ค่าเสียหาย ในกรณีที่มีการทำให้ทรัพย์สินของบริษัทฯ สูญหาย หรือเสียหาย เป็นต้น
  • ฐานการป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล: การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์ในการตรวจสอบ ดูแล ป้องกัน หรือระงับเหตุการณ์ใด ๆ ที่อาจเป็นอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล
(ฒ) เพื่อการดำเนินการใด ๆ ที่จำเป็น และเป็นประโยชน์ต่อท่าน หรือเกี่ยวข้องโดยตรงกับวัตถุประสงค์ที่กำหนดข้างต้น ·        ฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย: การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์ชอบด้วยกฎหมายในการดำเนินการใด ๆ ที่จำเป็นของบริษัทฯ และ/หรือเป็นประโยชน์ต่อท่าน หรือเกี่ยวข้องโดยตรงกับวัตถุประสงค์ที่กำหนดข้างต้น ทั้งนี้ หากเป็นกรณีที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนดให้การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลใดต้องได้รับความยินยอมจากท่าน บริษัทฯ จะขอความยินยอมโดยชัดแจ้งจากท่าน
(ณ) เพื่อวัตถุประสงค์อื่น ๆ ที่บริษัทฯ จะแจ้งให้ท่านทราบ ·        บริษัทฯ จะแจ้งให้ท่านทราบถึงวัตถุประสงค์อื่นใดอันเป็นเหตุให้บริษัทฯ ต้องประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านนอกเหนือไปจากวัตถุประสงค์ตามที่ระบุไว้ข้างต้น หรือเมื่อบริษัทฯ มีการเปลี่ยนแปลงวัตถุประสงค์เดิมที่กำหนดไว้ ทั้งนี้ หากเป็นกรณีที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนดให้การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลใดต้องได้รับความยินยอมจากท่าน บริษัทฯ จะขอความยินยอมโดยชัดแจ้งจากท่าน

5.2 เนื่องจากข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่บริษัทฯ จะดำเนินการประมวลผลเพื่อวัตถุประสงค์ที่กำหนดตามข้อ 5.1 ข้างต้นในส่วนที่มีความเกี่ยวเนื่องกับการปฏิบัติตามกฎหมายหรือสัญญาหรือมีความจำเป็นเพื่อเข้าทำสัญญากับท่าน เป็นข้อมูลที่จำเป็นต่อการบรรลุวัตถุประสงค์ดังกล่าว หากท่านไม่ประสงค์ที่จะให้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวแก่บริษัทฯ อาจมีผลกระทบทางกฎหมาย หรืออาจทำให้บริษัทฯ ไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ภายใต้สัญญาที่ได้เข้าทำกับท่าน หรือไม่สามารถเข้าทำสัญญากับท่านได้ (แล้วแต่กรณี) ในกรณีดังกล่าว บริษัทฯ อาจมีความจำเป็นต้องปฏิเสธการเข้าทำสัญญากับท่าน หรือยกเลิกการซื้อขายหรือการให้บริการที่เกี่ยวข้องกับท่าน ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน

5.3 ในกรณีที่บริษัทฯ จะดำเนินการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในลักษณะ และ/หรือเพื่อวัตถุประสงค์ที่ไม่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ข้างต้น บริษัทฯ จะจัดให้มีนโยบายหรือประกาศเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเพิ่มเติม และ/หรือมีหนังสือไปยังท่านเพื่ออธิบายการประมวลผลข้อมูลในลักษณะดังกล่าว โดยท่านควรอ่านนโยบายหรือประกาศเพิ่มเติมที่เกี่ยวข้องร่วมกับประกาศฯ ฉบับนี้ และ/หรือหนังสือดังกล่าว (แล้วแต่กรณี)

 

  1. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

6.1 บริษัทฯ อาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ภายใต้วัตถุประสงค์ที่กำหนดและตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด ให้แก่บุคคลและหน่วยงานดังต่อไปนี้

  • (ก) บริษัทในกลุ่มธุรกิจภายใต้กลุ่มยูนิฟาย ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ทั้งนี้ ให้หมายความรวมถึงผู้บริหาร กรรมการ พนักงาน ลูกจ้าง และ/หรือบุคลากรภายในของบริษัทดังกล่าวเท่าที่เกี่ยวข้อง และตามความจำเป็นเพื่อการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
  • (ข) คู่ค้าทางธุรกิจ ผู้ให้บริการ และผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ มอบหมายหรือว่าจ้างให้ทำหน้าที่บริหารจัดการ/ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่บริษัทฯ ในการให้บริการต่าง ๆ เช่น การตรวจสุขภาพของบุคลากรโดยคู่ค้าทางธุรกิจ การให้บริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ บริการบันทึกข้อมูล บริการชำระเงิน บริการรับส่งไปรษณีย์ บริการรับส่งพัสดุ บริการจัดพิมพ์ บริการด้านสุขภาพ บริการประกันภัย บริการการฝึกอบรม บริการวิเคราะห์ข้อมูล บริการทำการวิจัย หรือบริการอื่นใดที่อาจเป็นประโยชน์ต่อท่าน หรือเกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ อาทิ ธนาคารพาณิชย์ โรงพยาบาล บริษัทประกันชีวิต บริษัทประกันวินาศภัย เป็นต้น
  • (ค) ที่ปรึกษาของบริษัทฯ อาทิ ที่ปรึกษากฎหมาย ทนายความ ผู้ตรวจสอบบัญชี ประกันภัย หรือผู้เชี่ยวชาญอื่นใด ทั้งภายในและภายนอกของบริษัทฯ เป็นต้น
  • (ง) หน่วยงานของรัฐที่มีหน้าที่กำกับดูแลตามกฎหมาย หรือที่ร้องขอให้เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยอาศัยอำนาจตามกฎหมาย หรือที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการทางกฎหมาย หรือที่ได้รับอนุญาตตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ กรมสรรพากร สำนักงานประกันสังคม กรมการปกครอง กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กรมทรัพย์สินทางปัญญา สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล สำนักงานคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานอัยการสูงสุด ศาล และกรมบังคับคดี เป็นต้น
  • (จ) ลูกค้า คู่ค้า คู่สัญญาของบริษัทฯ ที่ท่านเป็นผู้ติดต่อสื่อสารหรือเกี่ยวข้องกับหน้าที่หรือตำแหน่งของท่าน หรือบุคคลอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลังกัน
  • (ฉ) บุคคลหรือหน่วยงานอื่นใดที่ท่านให้ความยินยอมให้เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อบุคคลหรือหน่วยงานนั้น ๆ

6.2 การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้กับบุคคลอื่น จะดำเนินการภายใต้วัตถุประสงค์ที่กำหนด หรือวัตถุประสงค์อื่นที่กฎหมายกำหนดให้กระทำได้เท่านั้น ในกรณีที่กฎหมายกำหนดว่าต้องได้รับความยินยอมจากท่าน บริษัทฯ จะขอความยินยอมจากท่านก่อน

6.3 ในการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้กับบุคคลอื่น บริษัทฯ จะจัดให้มีมาตรการที่เหมาะสมเพื่อคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้เปิดเผยและเพื่อปฏิบัติตามมาตรฐานและหน้าที่การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด ทั้งนี้ ในกรณีที่บริษัทฯ ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปต่างประเทศ บริษัทฯ จะดำเนินการเพื่อทำให้แน่ใจว่าประเทศปลายทาง องค์การระหว่างประเทศ หรือผู้รับข้อมูลในต่างประเทศนั้นมีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เพียงพอหรือเพื่อทำให้แน่ใจว่าการส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปต่างประเทศเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด โดยในบางกรณี บริษัทฯ อาจขอความยินยอมของท่านสำหรับการส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังต่างประเทศดังกล่าว

 

  1. ระยะเวลาเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทฯ จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามระยะเวลาที่จำเป็นเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ที่กำหนดในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลนั้น ๆ โดยระยะเวลาเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลจะเปลี่ยนแปลงไปโดยขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ที่กำหนดในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล นอกจากนี้ บริษัทฯ จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลเป็นระยะเวลาตามที่กฎหมายที่เกี่ยวข้องกำหนด (ถ้ามี) โดยคำนึงถึงอายุความตามกฎหมายสำหรับการดำเนินคดีที่อาจเกิดขึ้นจากหรือเกี่ยวข้องกับเอกสารหรือข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ เก็บรวบรวมไว้ในแต่ละรายการ และโดยคำนึงถึงแนวปฏิบัติของบริษัทฯ และของภาคธุรกิจที่เกี่ยวข้องสำหรับข้อมูลส่วนบุคคลแต่ละประเภทเป็นสำคัญ
ทั้งนี้ บริษัทฯ จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นระยะเวลาไม่เกิน 10 ปี นับแต่วันที่นิติสัมพันธ์ระหว่างท่านกับบริษัทฯ สิ้นสุดลง อย่างไรก็ดี บริษัทฯ อาจเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นระยะเวลาเกินกว่าระยะเวลาดังกล่าวหากกฎหมายอนุญาตหรือการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวจำเป็นต่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องทางกฎหมายของบริษัท

หลังจากครบกำหนดระยะเวลาดังกล่าวข้างต้น บริษัทฯ จะลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว จากการจัดเก็บหรือระบบของบริษัทฯ และของบุคคลอื่นซึ่งให้บริการแก่บริษัทฯ (ถ้ามี) หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวท่านได้ เว้นแต่จะเป็นกรณีที่บริษัทฯ สามารถเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวได้ต่อไปตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลหรือกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องกำหนด ทั้งนี้ สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับระยะเวลาเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ท่านสามารถติดต่อมายังบริษัทฯ ตามรายละเอียดการติดต่อที่ระบุไว้ในข้อ 9 ของประกาศฯ ฉบับนี้

 

  1. สิทธิต่าง ๆ ของท่านเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล

ในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านดังต่อไปนี้ ภายใต้หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งนี้ หากท่านประสงค์ที่จะขอใช้สิทธิของท่าน ท่านสามารถติดต่อมายังบริษัทฯ ตามรายละเอียดการติดต่อที่ระบุในข้อ 9 ของประกาศฯ ฉบับนี้

8.1 สิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านและขอให้บริษัทฯ ทำสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวให้แก่ท่าน ทั้งนี้ ตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด

8.2 สิทธิในการโอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิที่จะขอรับข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับท่าน รวมถึงมีสิทธิขอให้ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลรายอื่น หรือตัวท่านเอง เว้นแต่โดยสภาพไม่สามารถทำได้ ทั้งนี้ ตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด

8.3 สิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิขอคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ในกรณีที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด

8.4 สิทธิในการลบข้อมูลส่วนบุคคล ท่านอาจขอให้บริษัทฯ ลบ ทำลายหรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้ในกรณีที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด

8.5 สิทธิในการระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทฯ ระงับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในกรณีที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด

8.6 สิทธิในการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง ท่านมีสิทธิขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ถูกต้อง หากข้อมูลส่วนบุคคลของท่านนั้นไม่ถูกต้อง ไม่เป็นปัจจุบัน ไม่ครบถ้วนสมบูรณ์ หรือก่อให้เกิดความเข้าใจผิด

8.7 สิทธิที่จะเพิกถอนความยินยอม ในกรณีที่บริษัทฯ อาศัยความยินยอมของท่านในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลฯ ของท่าน ท่านมีสิทธิในการเพิกถอนความยินยอมในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ความยินยอมกับบริษัทฯ ได้

8.8 สิทธิในการยื่นข้อร้องเรียน หากท่านมีความกังวลหรือมีข้อสงสัยเกี่ยวกับแนวทางการปฏิบัติของบริษัทฯ เกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน โปรดติดต่อบริษัทฯ โดยใช้รายละเอียดการติดต่อตามข้อ 9 ของประกาศฯ ฉบับนี้ ทั้งนี้ ในกรณีที่มีเหตุให้เชื่อได้ว่าบริษัทฯ ได้ทำการฝ่าฝืนกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิยื่นข้อร้องเรียนต่อคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญที่ได้รับการแต่งตั้งโดยคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลตามระเบียบและวิธีการตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด

ทั้งนี้ บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิในการพิจารณาคำร้องขอใช้สิทธิของท่านและดำเนินการตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด

  1. วิธีการติดต่อบริษัทฯ

บริษัทฯ ได้มอบหมายให้ บริษัท ยูนิฟาย เคมิคอล จำกัด เป็นผู้ประสานงานเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทฯ ในกรณีที่ท่านมีข้อสงสัยใด ๆ หรือต้องการใช้สิทธิของท่านตามที่กำหนดไว้ในประกาศฯ นี้ ท่านสามารถติดต่อบริษัทฯ ผ่านช่องทาง ดังนี้

เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Data Protection Officer)

อีเมล:                     dpo@unifychemical.com

สถานที่ติดต่อ:        บริษัท ยูนิฟาย เคมิคอล จำกัด

72/66-67 หมู่ 3 ตำบลบางตลาด อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี 11120 ประเทศไทย

โทรศัพท์ : 02-962-6440-1

  1. การเปลี่ยนแปลงประกาศฯ ฉบับนี้

บริษัทฯ อาจทำการเปลี่ยนแปลงประกาศฯ ฉบับนี้เป็นครั้งคราว เพื่อให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ที่เกี่ยวกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน และตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลหรือกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องกำหนด โดยบริษัทฯ จะแจ้งให้ท่านทราบถึงการแก้ไขเปลี่ยนแปลงประกาศฯ ที่สำคัญใด ๆ พร้อมกับ ประกาศฯ ฉบับปรับปรุง ผ่านช่องทางที่เหมาะสม ทั้งนี้ บริษัทฯ ขอแนะนำให้ท่านตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงประกาศฯ ฉบับนี้เป็นระยะ ๆ

ให้ประกาศฯ ฉบับนี้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2565

ประกาศเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Notice)

สำหรับกระบวนการที่เกี่ยวข้องกับผู้มาติดต่อ

ของบริษัท ยูนิฟาย เคมิคอล จำกัด

 

บริษัท ยูนิฟาย เคมิคอล จำกัด ซึ่งต่อไปนี้จะเรียกว่า “บริษัทฯ” มุ่งมั่นที่จะปกป้องความเป็นส่วนตัวของผู้มาติดต่อ

และผู้ให้บริการ (เรียกรวมกันว่า “ท่าน” หรือ “เจ้าของข้อมูล”) ไม่ว่าจะเป็นการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผย (เรียกรวมกัน

ว่า “การประมวลผลข้อมูล”) เพื่อให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562

บริษัทฯ จึงออกประกาศฉบับนี้ขึ้น เพื่อแจ้งข้อมูลให้แก่ผู้ใช้บริการอันเกี่ยวกับ สิทธิและหน้าที่ ตลอดจนเงื่อนไขต่าง ๆ

ในการเก็บ รวมรวบ ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ดังนี้

1.         ข้อมูลส่วนบุคคล

“ข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม

แต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรมโดยเฉพาะ

“ข้อมูลที่มีความอ่อนไหว” หมายถึง ข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับเชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ความคิดเห็นทางการเมือง ความเชื่อ

ในลัทธิ ศาสนาหรือปรัชญา พฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพ เช่น ข้อมูลจำลองใบหน้า ข้อมูลจำลองม่านตา หรือข้อมูลจำลองลายนิ้วมือ

2.         ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯเก็บรวบรวม

ในการเก็บรวบรวม และเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลบริษัทฯ จะใช้วิธีการที่ชอบด้วยกฎหมายและจำกัดเพียงเท่าที่จำเป็นตามวัตถุประสงค์การดำเนินงานของบริษัทฯ อันประกอบด้วย

  • ข้อมูลส่วนตัว เช่น ชื่อ-นามสกุล, อายุ, วันเกิด, เลขประจำตัวประชาชน, เลขที่หนังสือเดินทาง, ลายมือชื่อ,

สำเนาบัตรประชาชน

  • ข้อมูลสำหรับติดต่อ เช่น ที่อยู่, หมายเลขโทรศัพท์, อีเมล
  • ข้อมูลทางการเงิน เช่น ข้อมูลบัญชีธนาคาร, สำเนาสมุดบัญชี
  • ข้อมูลที่ได้จากระบบอัตโนมัติหรืออุปกรณ์ต่าง ๆ เช่น หมายเลข IP Address, Cookie, พฤติกรรมการให้บริการ,

ประวัติการให้บริการ, เสียง, ภาพถ่าย, ภายเคลื่อนไหว, ชื่อบัญชี Social Media, Chat, Geolocation, ID Username เป็นต้น

 

โดยบริษัทฯ จะดำเนินการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลเมื่อได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลก่อน

ยกเว้นในกรณีดังต่อไปนี้

  • เพื่อปฏิบัติตามสัญญา กรณีการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อความจำเป็นต่อการให้บริการ

หรือปฏิบัติตามสัญญาระหว่างเจ้าของข้อมูลและบริษัทฯ

  • เพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพ
  • เพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย
  • เพื่อผลประโยชน์อันชอบโดยกฎหมายของบริษัทฯ กรณีมีความจำเป็นเพื่อประโยชน์อันชอบธรรมในการดำเนินงาน

ของบริษัทฯ โดยบริษัทฯ จะพิจารณาถึงสิทธิของเจ้าของข้อมูลเป็นสำคัญ เช่น เพื่อป้องกันการฉ้อโกง การรักษา

ความปลอดภัยในระบบเครือข่าย การปกป้องสิทธิเสรีภาพ และประโยชน์ของเจ้าของข้อมูลเป็นต้น

  • เพื่อการศึกษาวิจัยหรือสถิติ กรณีที่มีการจัดทำเอกสารประวัติศาสตร์หรือจดหมายเหตุเพื่อประโยชน์สาธารณะ

หรือที่เกี่ยวกับการศึกษาวิจัยหรือสถิติซึ่งได้จัดให้มีมาตรการปกป้องที่เหมาะสมเพื่อคุ้มครองสิทธิ และเสรีภาพ

ของเจ้าของข้อมูล

  • เพื่อปฏิบัติภารกิจของรัฐ กรณีมีความจำเป็นต่อการปฏิบัติตามภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะ หรือการปฏิบัติหน้าที่

ตามอำนาจรัฐที่ บริษัทฯ ได้รับมอบหมาย

 

3.         แหล่งที่มาของข้อมูล

  • ข้อมูลจากเจ้าของข้อมูลโดยตรง ที่ท่านได้ให้ไว้ในกิจกรรมต่าง ๆ เช่น การให้บริการ, การขอเข้าสถานที่, กิจกรรม

ส่งเสริมการขาย,

  • ข้อมูลจากแหล่งอื่น เช่น ข้อมูลสาธารณะ ข้อมูลจากหน่วยงานพันธมิตร หรือบริษัทในเครือ ตลอดจนข้อมูลส่วน

บุคคลอื่น ๆ ที่ผู้ให้บริการได้มอบไว้ให้

 

4.         วัตถุประสงค์ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทฯอาจนำข้อมูลส่วนบุคคลไปใช้ตามวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้หรือตามวัตถุประสงค์อื่น ๆ  ที่แจ้งขณะเก็บรวบรวม

ข้อมูลหรือที่ท่านได้ให้ความยินยอมหลังจากบริษัทฯดำเนินการเก็บข้อมูลไปแล้ว

  • จัดส่งสินค้าและบริการเพื่อตอบสนองความต้องการหรือข้อร้องเรียนต่าง ๆ
  • ใช้ในการดำเนินกิจการ ประเมินผล และปรับปรุงธุรกิจ เพื่อพัฒนาคุณภาพสินค้าและบริการ
  • ดำเนินกิจกรรมใด ๆ ทางบัญชีและการเงิน เช่น การตรวจสอบบัญชี การแจ้งและเรียกเก็บหนี้ การออกใบกำกับภาษี และหลักฐานการดำเนินธุรกรรมต่าง ๆ ที่กฎหมายกำหนด
  • เพื่อประโยชน์อันชอบด้วยกฎหมายของบริษัทฯ เช่น การบันทึกเสียงการร้องเรียนผ่านระบบ Call Center การบันทึกภาพผ่านกล้อง CCTV
  • ใช้ในการสอบสวนและปฏิบัติตามกฎหมาย ข้อบังคับ หรือหน้าที่ตามกฎหมายของ บริษัทฯ
  • ตอบสนองต่อคำขอของท่าน เช่น การให้บริการหลังการขาย การรับเรื่องร้องเรียน

 

5.         การส่งต่อและเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทฯจะไม่เปิดเผยและส่งต่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังหน่วยงานภายนอก เว้นแต่ได้รับคำยินยอมชัดแจ้งจากท่าน หรือเป็นไปตามกรณีดังต่อไปนี้

  • เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ตามที่ระบุในนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ บริษัทฯอาจจำเป็นต้องเปิดเผยหรือแบ่งปันข้อมูลเฉพาะเท่าที่จำเป็นแก่คู่ค้า ผู้ให้บริการ หรือหน่วยงานภายนอก โดยบริษัทฯจะจัดทำข้อตกลงการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลตามที่กฎหมายกำหนด
  • บริษัทฯอาจเปิดเผยหรือแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่บริษัทในเครือ โดยจะเป็นการประมวลผลข้อมูลภายใต้วัตถุประสงค์ที่ระบุในนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้เท่านั้น
  • กฎหมายหรือกระบวนการทางกฎหมายบังคับให้เปิดเผยข้อมูล หรือเปิดเผยต่อเจ้าพนักงาน เจ้าหน้าที่รัฐ หรือหน่วยงานที่มีอำนาจเพื่อปฏิบัติตามคำสั่งหรือคำขอที่ชอบด้วยกฎหมาย

 

6.         การปกป้องข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทฯ ได้จัดทำและ/หรือเลือกใช้ระบบการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลให้มีกลไกและเทคนิคที่เหมาะสม พร้อมทั้งมีมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งจำกัดการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากพนักงาน ลูกจ้าง และตัวแทนของบริษัทฯ เพื่อป้องกันไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านถูกนำไปใช้ เปิดเผย ทำลาย หรือเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาต

 

7.         ระยะเวลาในการจัดเก็บข้อมูล

บริษัทฯจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ตลอดระยะเวลาตราบเท่าที่จำเป็นต่อการประมวลผลตามวัตถุประสงค์ในนโยบายฉบับนี้เท่านั้น เว้นแต่มีความจำเป็นต้องเก็บข้อมูลส่วนบุคคลไว้ด้วยเหตุอื่นใด เช่น เพื่อปฏิบัติ

ตามกฎหมายหรือการตรวจสอบกรณีการเกิดข้อพิพาท บริษัทฯอาจมีความจำเป็นต้องเก็บข้อมูลไว้เป็นระยะเวลาเกินกว่า

ที่ระบุ

 

8.         การเปลี่ยนแปลงนโยบายความเป็นส่วนตัว

บริษัทฯอาจแก้ไขเพิ่มเติมนโยบายความเป็นส่วนตัวโดยจะประกาศบนเว็บไซต์ www.unifychemical.com พร้อม

ระบุวันที่แก้ไขเพิ่มเติมครั้งล่าสุด บริษัทฯแนะนำให้ท่านตรวจสอบนโยบายนี้เป็นประจำ โดยการที่ท่านใช้ผลิตภัณฑ์หรือบริการทางเว็บไซต์ของบริษัทฯต่อไปหลังจากที่มีการเปลี่ยนแปลงนโยบายความเป็นส่วนตัวจะถือว่าท่านยอมรับนโยบาย

ที่เปลี่ยนแปลงนั้นแล้ว

 

9.         สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

ท่านสามารถขอใช้สิทธิต่าง ๆ ตามที่กฎหมายกำหนด และตามที่ระบุไว้ในประกาศฉบับนี้ได้ดังต่อไปนี้

  • สิทธิในการขอเข้าถึงและขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคล
  • สิทธิในการขอแก้ไขข้อมูลดังกล่าวให้เป็นปัจจุบันและถูกต้อง
  • สิทธิในการขอรับข้อมูลส่วนบุคคล ในกรณีที่บริษัทฯได้ทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลนั้นอยู่ในรูปแบบที่สามารถอ่านหรือใช้งานโดยทั่วไปได้ด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานได้โดยอัตโนมัติและสามารถใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ
  • สิทธิในการขอลบหรือทำลายหรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้ เมื่อข้อมูลนั้นหมดความจำเป็นหรือเมื่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลถอนความยินยอม
  • สิทธิในการขอระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล ในกรณีเมื่อเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่ต้องลบหรือเมื่อข้อมูลดังกล่าวหมดความจำเป็น
  • สิทธิในการถอนความยินยอม ในการประมวลผลข้อมูลที่ผู้ใช้บริการเคยให้ไว้
  • สิทธิในการขอคัดค้าน เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลเมื่อใดก็ได้

 

หากท่านมีข้อสงสัยหรือมีความประสงค์จะแก้ไข ลบข้อมูล ใช้สิทธิ หรือติดต่อเรื่องอื่น ๆ ที่เกี่ยวกับข้อมูลของท่าน กรุณาติดต่อผ่านช่องทางการติดต่อด้านล่าง

 

เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Data Protection Officer)

อีเมล:                    dpo@unifychemical.com

สถานที่ติดต่อ:    บริษัท ยูนิฟาย เคมิคอล จำกัด

72/66-67 หมู่ 3 ตำบลบางตลาด อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี 11120 ประเทศไทย

โทรศัพท์ : 02-962-6440-1

 

  1. การเปลี่ยนแปลงประกาศฯ ฉบับนี้

บริษัทฯ อาจทำการเปลี่ยนแปลงประกาศฯ ฉบับนี้เป็นครั้งคราว เพื่อให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ที่เกี่ยวกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน และตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลหรือกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องกำหนด โดยบริษัทฯ จะแจ้งให้ท่านทราบถึงการแก้ไขเปลี่ยนแปลงประกาศฯ ที่สำคัญใด ๆ พร้อมกับ ประกาศฯ ฉบับปรับปรุง ผ่านช่องทางที่เหมาะสม ทั้งนี้ บริษัทฯ ขอแนะนำให้ท่านตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงประกาศฯ ฉบับนี้เป็นระยะ ๆ

 

ให้ประกาศฯ ฉบับนี้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่  1 มิถุนายน พ.ศ. 2565

นโยบายการใช้คุกกี้
บริษัท ยูนิฟาย เคมิคอล จำกัด

ฉบับ ณ วันที่ 1 มิถุนายน 2565

นอกเหนือจากนโยบายความเป็นส่วนตัวของลูกค้า บริษัท ยูนิฟาย เคมิคอล จำกัด (“บริษัทฯ” หรือ “เรา”) ตระหนักถึงความสำคัญของการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในระหว่างที่ท่านมีปฏิสัมพันธ์ผ่านช่องทางออนไลน์กับบริษัทฯ โดยข้อมูลที่ท่านแบ่งปันกับบริษัทฯ ช่วยให้เราและพันธมิตรทางธุรกิจสามารถจัดหาสินค้าและนำเสนอประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้เหมาะแก่ท่านความต้องการของท่าน

บริษัทฯ ใช้คุกกี้และเทคโนโลยีอื่นที่คล้ายกันในการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลโดยถือเป็นส่วนหนึ่งในการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ ตามที่กำหนดไว้ในนโยบายการใช้คุกกี้ของบริษัทฯ (“นโยบายการใช้คุกกี้”) นี้ ซึ่งจะใช้บังคับกับเว็บไซต์ แอปพลิเคชันบนโทรศัพท์เคลื่อนที่ เว็บไซต์โซเชียลเน็ตเวิร์ก ช่องทางการสื่อสารออนไลน์ และช่องทางอื่นๆ ที่บริษัทฯ เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

  1. คุกกี้คืออะไรและทำไมบริษัทฯ จึงใช้คุกกี้

คุกกี้ คือ ข้อมูลหรือข้อความขนาดเล็กที่ส่งออกไปยังคอมพิวเตอร์ของท่านเมื่อท่านเข้าชมเว็บไซต์ และใช้ในการจัดเก็บหรือติดตามข้อมูลเกี่ยวกับการใช้เว็บไซต์ของท่าน และใช้ในการวิเคราะห์แนวโน้มต่าง ๆ ในการบริหารจัดการเว็บไซต์ของบริษัทฯ ในการติดตามการเคลื่อนไหวของผู้ใช้
บนเว็บไซต์ หรือในการจดจำการตั้งค่าของผู้ใช้ โดยคุกกี้บางตัวมีความจำเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากหากปราศจากคุกกี้ดังกล่าวเว็บไซต์จะไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ คุกกี้อื่น ๆ ช่วยให้บริษัทฯ เข้าใจถึงการใช้งานเว็บไซต์ของท่านมากขึ้น ทำให้เราสามารถปรับปรุงประสบการณ์ในการท่องเว็บไซด์ของท่าน และยังช่วยให้เราสามารถปรับปรุงเนื้อหาให้ตรงกับความต้องการของท่าน และทำให้ท่านมีปฏิสัมพันธ์กับเว็บไซต์ของเราได้สะดวกมากขึ้น โดยคุกกี้สามารถจดจำชื่อผู้ใช้ของท่านได้อย่างปลอดภัย รวมถึงสามารถจดจำการตั้งค่าภาษาของท่านได้อีกด้วย

  1. บริษัทฯ ใช้คุกกี้ประเภทใดบ้าง

บริษัทฯ ใช้คุกกี้ของบริษัทฯ และคุกกี้ของบุคคลภายนอก เพื่อวัตถุประสงค์ที่แตกต่างกัน ตามรายละเอียดด้านล่างนี้

ประเภทของคุกกี้ หน้าที่
คุกกี้ที่จำเป็นอย่างยิ่ง (Strictly necessary cookies) คุกกี้เหล่านี้มีความจำเป็นเพื่อให้ท่านสามารถท่องเว็บไซต์และใช้งานฟีเจอร์ต่าง ๆ บนเว็บไซต์ของเราได้ เช่น เข้าถึงพื้นที่ที่ปลอดภัยบนเว็บไซต์ของบริษัทฯ โดยบริษัทฯ ใช้คุกกี้ที่จำเป็นอย่างเคร่งครัดเพื่อให้แน่ใจว่าบริการดิจิทัลของบริษัทฯ ทำงานหน้าที่พื้นฐานได้อย่างถูกต้องและสมบูรณ์
คุกกี้เพื่อประสิทธิภาพ (Performance cookies) บริษัทฯ ใช้คุกกี้เพื่อประสิทธิภาพในการวัดว่าท่านเข้าชมเว็บไซต์ของบริษัทฯ บ่อยเพียงใดและท่านใช้งานเว็บไซต์ของเราอย่างไร เช่น เพจที่ท่านเข้าชมบ่อยครั้งที่สุด โดยบริษัทฯ ใช้ข้อมูลนี้เพื่อการปรับปรุงประสิทธิภาพของเว็บไซต์และประสบการณ์ของผู้ใช้
คุกกี้เพื่อการใช้งาน
(Functionality cookies)
คุกกี้เหล่านี้ทำให้เว็บไซต์สามารถจดจำท่านและจดจำตัวเลือกของท่านได้ (เช่น ภาษาที่เลือก หรือภูมิภาคที่อยู่) ทำให้สามารถมอบประสบการณ์ที่เหมาะสมกับท่านได้ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้ ยังสามารถใช้คุกกี้เหล่านี้ในการจดจำการเปลี่ยนแปลงขนาดข้อความ แบบอักษร และส่วนอื่น ๆ ของเว็บเพจตามที่ท่านกำหนดเองได้
คุกกี้เพื่อการโฆษณา
(Advertising cookies)
คุกกี้เหล่านี้ใช้เพื่อแสดงโฆษณาตามความเกี่ยวข้องของท่านและตามความสนใจของท่านมากขึ้น นอกจากนี้ ยังใช้เพื่อจำกัดจำนวนครั้งในการเห็นโฆษณา รวมถึงช่วยวัดประสิทธิภาพของแคมเปญโฆษณาของบริษัทฯ โดยในบางครั้งบริษัทฯ เปิดเผยข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนอันเกี่ยวกับกิจกรรมการเรียกดูของท่านให้กับพันธมิตรด้านโฆษณาและพันธมิตรในการสร้างสรรค์งานของบริษัทฯ โดยพันธมิตรเหล่านี้อาจใช้ข้อมูลนี้ในการโฆษณาสินค้าที่ท่านอาจสนใจในเว็บไซต์อื่น ๆ หรือช่วยพัฒนาแคมเปญโฆษณาของบริษัทฯ ในอนาคต
คุกกี้เพื่อความมั่นคงปลอดภัย (Security cookies) บริษัทฯ ใช้คุกกี้ความมั่นคงปลอดภัยเพื่อให้ท่านสามารถมีปฏิสัมพันธ์กับบริษัทฯได้อย่างรวดเร็วและมั่นคงปลอดภัยมากยิ่งขึ้น คุกกี้เหล่านี้จะช่วยระบุและป้องกันความเสี่ยงด้านความมั่นคงปลอดภัยที่อาจจะเกิดขึ้น
คุกกี้ของบุคคลภายนอก โปรดทราบว่าบุคคลภายนอกอาจใช้คุกกี้ผ่านเว็บไซต์ของบริษัทฯ เพื่อแสดงโฆษณาที่เกี่ยวข้องกับความสนใจของท่านตามกิจกรรมการท่องเว็บของท่าน นอกจากนี้ บุคคลภายนอกเหล่านี้ยังอาจเก็บรวบรวมประวัติเบราว์เซอร์ของท่านหรือข้อมูลอื่น ๆ เพื่อพิจารณาว่าท่านเข้าถึงเว็บไซต์ของบริษัทฯ อย่างไร
และเพจที่ท่านเข้าชมก่อนออกจากเว็บไซต์ของบริษัทฯ ดังนั้น บริษัทฯ จึงไม่สามารถควบคุมข้อมูลที่รวบรวมโดยคุกกี้เหล่านี้ได้โดยตรง
ทั้งนี้ ท่านเองอาจตกอยู่ภายใต้นโยบายความเป็นส่วนตัวหรือนโยบายการใช้คุกกี้ของบุคคลภายนอกเหล่านั้นได้เช่นกัน บริษัทฯ จึงขอแนะนำให้ท่านอ่านนโยบายความเป็นส่วนตัว หรือนโยบายการใช้คุกกี้ของบุคคลภายนอกดังกล่าวเพื่อศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการที่บุคคลภายนอกดังกล่าวเก็บรวบรวม
ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
  1. ท่านจะควบคุมคุกกี้ได้อย่างไร

เบราว์เซอร์อินเทอร์เน็ตส่วนใหญ่อนุญาตให้ท่านสามารถควบคุมได้ว่าจะยอมรับคุกกี้หรือไม่ โดยหากท่านปฏิเสธ การลบหรือบล็อกคุกกี้อาจส่งผลต่อประสบการณ์ผู้ใช้ของท่าน และหากไม่มีคุกกี้แล้ว ท่านอาจไม่สามารถใช้ฟีเจอร์หรือพื้นที่ของเว็บไซต์ทั้งหมดหรือบางส่วน หรืออาจใช้งานบางส่วนของเว็บไซต์ของบริษัทฯ น้อยลง โดยหากท่านไม่ได้ตั้งค่าเบราว์เซอร์ของท่านให้ปฏิเสธคุกกี้ ระบบจะใช้คุกกี้ตามที่อธิบายด้านบนเมื่อท่านเข้าชมเว็บไซต์ของบริษัทฯ และหากท่านต้องการลบคุกกี้หรือหากท่านเปลี่ยนใจ ท่านสามารถเปลี่ยนการตั้งค่าได้ในเบราว์เซอร์ของท่านได้

  1. รายละเอียดติดต่อของบริษัทฯ

หากท่านมีข้อสงสัยประการใดเกี่ยวกับการใช้คุกกี้ของบริษัทฯ โปรดติดต่อเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทฯ (Data Protection Officer : DPO) ได้ที่

บริษัท ยูนิฟาย เคมิคอล จำกัด
เลขที่ 72/66-67 หมู่ที่ 3 ตำบลบางตลาด อำเภอปากเกร็ด
จังหวัดนนทบุรี 11120
ประเทศไทย

Email: unifychemical@gmail.com Tel: 02 962 6440-1